ทิศทางตลาดหุ้นสุดสัปดาห์ โบรกฯ เตือนแรงเทขายทำกำไรทำดัชนีผันผวน

>>

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

ประเมินว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกแกว่งรอผลการเจรจาการค้าที่ยืดยาวมานานมากกว่า 7 รอบ เบื้องต้นประเมินว่ามีโอกาสจบด้วยการเลื่อน Hard Deadline ออกไป 60 วัน พร้อมคาดภาพรวมเศรษฐกิจโลกในไตรมาส 1 รวมถึงประเทศที่พึ่งพิงการส่งออกต่อ GDP สูง (รวมถึงประเทศไทย) อาจจะ ได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันแนะนำนักลงทุนติดตามการประชุมร่วม เพื่อหารือมาตรการตอบโต้การขึ้นภาษีรถยนต์ระหว่างสหรัฐ-ยุโรป 25% นอกจากนี้งบการเงินเริ่มประกาศ 

 

บล.เอเซีย พลัส จำกัด

มองว่า ดัชนีตลาดหุ้นยังผันผวนในกรอบ 1,640-1,660 จุด มีแรงกดดันจากภายนอกที่ลดลง โดยเฉพาะสงครามการค้าสหรัฐ-จีนมีพัฒนาการเชิงบวก และเฟดส่งสัญญาณใช้นโยบายผ่อนคลาย น่าจะหนุนฟันด์โฟลว์กลับมา แม้อาจถูกกดดันด้วยปัจจัยการเมืองในประเทศ และการย่อยข่าวบริษัทจดทะเบียนที่รายงานงบไตรมาส 4/2561 โดยกลยุทธ์เน้นรายหุ้นที่จ่ายเงินปันผลเด่นและใกล้ขึ้น XD

 

บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)

มองว่าดัชนีตลาดหุ้นจะแกว่งตัวไซต์เวย์ต่อเนื่อง โดยตลาดยังคงรอดูความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ขณะที่ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน กลุ่มพลังงานส่วนใหญ่ออกมาต่่ากว่าคาด ฝั่งเรียลเซ็คเตอร์โดยรวม ออกมาใกล้เคียงคาด ระยะนี้จึงเน้น Selective Buy หุ้นที่คาดว่าจะมีแนวโน้มก่าไรแข็งแกร่ง น่าจะสามารถ Outperform ตลาดได้

 

บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน)

ประเมินดัชนีตลาดหุ้นแกว่งตัวในกรอบ 1,640 – 1,655 จุด แม้ว่าภาวะตลาดจะได้ปัจจัยบวก จากความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนหลังมีรายงานข่าวคณะผู้แทนของทั้ง 2 ประเทศเริ่มร่างเอ็มโอยูจํานวน 6 ฉบับ เพื่อคลี่คลายข้อพิพาทการค้าที่ยืดเยื้อมากว่า 7 เดือน

อย่างไรก็ตามความกังวลภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวกลับมากดดันทิศทางการลงทุนอีกครั้ง หลังยอดขายบ้านมือสองในสหรัฐเดือนมกราคมปรับตัวลงต่ําสุดในรอบกว่า 3 ปี นอกจากนี้แรงกดดันจากแรงเทขายทำกำไรหลังประกาศงบและเงินปันผล จะเป็นตัวถ่วงให้ดัชนีผันผวน