‘ส. ขอนแก่นฟู้ดส์’ หรือ SORKON โชว์ผลงานปี 2561 ทำกำไรสุทธิ 191.3 ล้านบาท เติบโตถึงร้อยละ 40.2 หลังทำกำไรขั้นต้นได้ดีจากกลุ่มธุรกิจอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์และอาหารทะเลแปรรูป ขณะที่รายได้รวมทำได้ 2,952.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 ด้านบอร์ดฯ ประกาศจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินปี 2561 ในอัตรา 2.50 บาท ตอบแทนผู้ถือหุ้น
นายเจริญ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SORKON ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์รายใหญ่ของไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานประจำปี 2561 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการผลักดันการเติบโตที่ดีทั้งในแง่ของรายได้รวมและกำไรสุทธิ หลังจากที่ SORKON ทำรายได้รวม 2,952.2ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 เมื่อเทียบกับปี 2560 ที่มีรายได้รวม 2,776.7ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 191.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 40.2 เมื่อเทียบกับปี 2560 ที่มีกำไรสุทธิ 136.4 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปัจจัยความสำเร็จนอกจากขีดความสามารถการแข่งขันทางธุรกิจที่ดีแล้ว ยังมาจากการบริหารจัดการด้านต้นทุนสินค้าและการเงินที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถทำอัตรากำไรขั้นต้นปี 2561 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 32.3 จากปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 30.6 โดยมาจากธุรกิจอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์ (อาหารพื้นเมืองไทย อาหารขบเคี้ยวและอาหารแช่แข็งพร้อมทาน) มีกำไรขั้นต้น 591.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.9 มาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นทำให้ค่าใช้จ่ายในการผลิตต่อหน่วยต่ำลง ขณะที่ธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปในปี 2561 มีกำไรขั้นต้น 278.1 ล้านบาท เพิ่มร้อยละ 9.8 จากปี 2560 โดยมาจากความสามารถในการบริหารจัดการวัตถุดิบและค่าใช้จ่ายในการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ในภาพรวมตัวเลขกำไรสุทธิปี 2561 บริษัทฯ ทำได้ 191.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.9 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 40.2 เมื่อเทียบกับปี 2560 ที่มีกำไรสุทธิ 136.4 ล้านบาท
ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2562 จึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานปี 2561 (มกราคม-ธันวาคม) ในอัตรา 2.50 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 10 พฤษภาคม 2562 และกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 13 พฤษภาคม 2562 ซึ่งกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 24พฤษภาคม 2562
“ผลการดำเนินงานในปี 2561 ที่ออกมา ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจเนื่องจากเราสามารถทำอัตรากำไรขั้นต้นได้ดี หลังบริหารจัดการด้านต้นทุนสินค้าและการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรสุทธิของบริษัทเติบโตได้มากกว่าร้อยละ40 และนำไปตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นทุกคนในรูปแบบเงินปันผล” นายเจริญ กล่าว