คลังวอนธปท. ใช้นโยบายการเงินพยุงเศรษฐกิจ

>>

รมว.คลัง เรียกร้อง ธปท. ใช้นโยบายการเงินพยุงเศรษฐกิจ หลังไม่สามารถใช้นโยบายการคลังได้ เนื่องจากติด พ.ร.บ.เลือกตั้ง

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า เศรษฐกิจต้นปี 2562 ขยายตัวชะลอลงเป็นเรื่องที่รัฐบาลและกระทรวงการคลังคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว เพราะก่อนมี พ.ร.บ.เลือกตั้ง รัฐบาลได้ออกมาตรการหลายด้านเพื่อช่วยกระตุ้นและพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ทรุดต่ำลงไป เพราะเห็นความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในไตรมาสแรกของปี 2562

อย่างไรก็ตาม เมื่อมี พ.ร.บ.เลือกตั้ง ออกมาแล้ว รัฐบาลก็จะไม่มีการออกมาตรการทางการคลังออกมากระตุ้นหรือพยุงเศรษฐกิจได้อีก เพราะจะมีปัญหาว่าเป็นการหาเสียง ทั้งที่รัฐบาลนี้มีอำนาจเต็มที่ดำเนินการได้ แต่คลังก็ไม่อยากทำให้เกิดปัญหา แต่หากจำเป็นจริงๆ ก็อาจจะต้องทำ จะปล่อยให้เศรษฐกิจแย่ลงไปมากเรื่อยๆ ไม่ได้

"หน่วยงานอื่นนอกจากกระทรวงการคลัง ที่สามารถเข้าไปช่วยดูแลเศรษฐกิจได้ ก็ควรเข้าไปดูแล หน่วยงาน ที่เป็นกลางทางการเมืองอย่างเช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ดูแลเรื่องนโยบายการเงิน ก็ต้องเข้ามาช่วยดูแลการขยายตัวเศรษฐกิจ ส่วนตอนนี้ดำเนินการช่วยหรือยัง ต้องถาม ธปท." นายอภิศักดิ์ กล่าว

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท. ยอมรับว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้อาจจะเติบโตชะลอลงจากปีก่อน เนื่องจากปัจจัยต่างประเทศมีเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ ธปท.ได้ประเมินไว้บ้างแล้ว โดยในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งต่อไปในเดือน มี.ค. 2562 จะนำปัจจัยต่างๆ มาพิจารณาทบทวนประมาณการเศรษฐกิจไทยในปีนี้อีกครั้งเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ กนง.จะประเมินสถานการณ์เป็นระยะ

สำหรับกรณีที่ต่างประเทศเริ่มมีการทบทวนทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลงนั้น คงไม่ใช่เพียงปัจจัยเดียวที่ กนง.นำมาพิจารณาเพื่อกำหนดนโยบายการเงิน แต่ขึ้นอยู่กับข้อมูลทั้งหมดที่มี อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอินเดียและปากีสถานอาจมีผล กระทบมาถึงประเทศไทยบ้าง จากความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ