ฉลองเปิดสาขาใหม่ที่ทองหล่อ ด้วยการสรุปงบ 6M / 2019 ของ ดอง กิโยเต้
- เปลี่ยนชื่อจาก Don Quijote เป็น Pan Pan Pacific International Holdings (PPIH)เพื่อให้สอดคล้องกับการขยายธุรกิจ
- เก็บหุ้น UNY ครบ 100% แล้วไตรมาสหน้าจะเอางบมารวมแต่ส่วนที่ Family mart(เจ้าของเก่า) ทำ Tender offer ขอซื้อหุ้น PPIN ณ ราคา 6,660 JPY ปราฏว่าราคาตลาดวิ่งแซงไป จึงซื้อหุ้นได้น้อยกว่าที่คาด จะรอเก็บหุ้นในตลาดต่อไป
- จากการควบรวมกับ UNY ทำให้จำนวนสาขาเพิ่มเป็น 429(รวมทุกแรนด์) ไตรมาสล่าสุด เปิด 7 ปิด 2 สาขา
- ในจำนวน 429 สาขา เป็นดองกี้ 215,Picasso 30,Mege & Nen Mega 126, ที่เหลือเป็น Nagasakiya และแบรนด์อื่นๆกับสาขาใน ตปท. อีก 40 สาขา
- ปี 2019 (ตั้งแต่ ก.ค. 18-มิ.ย. 19) ยอดขาย 6 เดือน (1 ก.ค. - 31 ธ.ค. 18) อยู่ที่ 5.13 แสนล้าน +11% EBIT 3 หมื่นล้าน +2.6% Recurring profit 3.53 หมื่นล้าน +13.8%
- SSSG เริ่มไม่ดี เฉพาะ ธ.ค. -1.2% ต.ค.- ธ.ค.-1.2% ต.ค. -ธ.ค. +0.6% จำนวนลูกค้า -0.7% ยอดขายต่อหัว +1.3% กำลังแก้
- ยอดขาย Duty free +27% ยังโตต่อเนื่องในอัตราที่สูงกว่าการเติบโตของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาญี่ปุ่น เป็นผลจากการหันมาเน้าตลาดนักท่องเที่ยวของบริษัท
- ไตรมาสล่าสุดมีกระแสเงินสดจากธุรกิจ 3.32 หมื่นล้านใช้ลงทุนไป 2.44 หมื่นล้าน กู้มา 1.85 แสนล้าน เป็นหุ้นกู้เกือบ 1.4 แสนล้าน ที่เหลือกู้แบงก์ถือว่าปีนี้กู้เยอะมาก
- เบ็ดเสร็จกระแสเงินสดอิสระเพ่ิม 1.94 แสนล้าน เงินสดปัจจุบัน 7.5 หมื่นล้าน รวมมีเงินสด 2.7 แสนล้าน
- กำลังแปลง UNY ให้เป็น Mega Donk ตามแผน และจากการร่วมมือกับ Family Mart กำลังปรับปรุงร้าน FM ให้เป็นร้านสะดวกซื้อของคนรุ่นใหม่ มีมุมของดองกี้ข้างใน
- หันมาเปิดตลาดต่างประเทศจริงจัง ม.ค. เปิดที่สิงคโปร์ ก.พ. เปิดที่กรุงเทพฯ ต.ค. ปีที่แล้วเปิดที่ LA
- ธุรกิจกำลังเข้าสู้ Curve ใหม่ของการเติบโต แต่ต้องจับตาดู SSSG ให้ดี เพราะเป็นตัวบ่งบอก Performance จริงอีกอย่างที่ต้องระวังคือกู้มาเยอะมาก ถ้าเศรษฐกิจไม่ดีอาจแย่ได้