"อย่าตัดสินใจแบบอ้วนเสี้ยว"

>>

ใครที่ได้อ่านหรือติดตามชมภาพยนตร์เรื่อง "สามก๊ก" คงจะคุ้นเคยกับ "อ้วนเสี้ยว" ที่เป็นตัวละครหลักในช่วงต้นๆของเรื่อง ในยุคหลังจากโจรโพกผ้าเหลืองที่รัฐบาลกลางของราชวงศ์ฮั่น ไม่มีอำนาจควบคุมขุนศึกหัวเมืองให้อยู่ในอำนาจได้ อ้วนเสี้ยวที่เป็นเชื้อสายขุนนางเก่าแก่มาถึง 4 ชั่วคน (ลองคิดเล่นๆว่าถ้าเป็นสมัยนี้ก็เป็นรัฐมนตรีมาตั้งรุ่นคุณทวด) เป็นขุนศึกที่มีความได้เปรียบสูงสุดทั้งในด้านกำลังทหาร และดินแดน ในช่วงที่โจโฉระดมขุนนางทุกหัวเมืองมารุมปราบตั๋งโต๊ะก็ยังต้องเกรงใจอ้วนเสี้ยวด้วยการยกอ้วนเสี้ยวให้เป็นหัวหน้าทีม แต่นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นในการแสดงความอ่อนแอของอ้วนเสี้ยว เมื่อไม่สามารถคุมกำลังหัวเมืองได้ หลังจากมีผลประโยชน์ทับซ้อนและความขับแย้งในกลุ่มหัวเมืองทำให้กองทัพพันธมิตรก็ต้องแยกย้ายกันกลับบ้านแถมยังทิ้งปมความขัดแย้งไว้ให้กับขุนศึกอีกหลายคน


อ้วนเสี้ยวมาเดินหมากที่ผิดพลาดที่สุดในการทำศึกชิงความเป็นผู้นำภาคเหนือกับโจโฉที่กองทัพอ้วนเสี้ยงเจ็ดแสนคนต้องพ่ายแพ้ให้กับกองทัพของโจโฉที่มีเพียงเจ็ดหมื่นคน ทั้งที่ในช่วงต้นของการรบกองทัพอ้วนเสี้ยวได้เปรียบสุดๆ ทั้งในยุทธวิธีที่สร้างหอธนูล้อมค่ายโจโฉและดึงเวลาให้กองทัพโจโฉต้องขาดเสบียง ในช่วงนั้นโจโฉถึงกับหนักใจในการรับศึกมากถึงกับอยากถอยกลับไปตั้งหลักที่เมือง แต่ทีมที่ปรึกษาก็พยายามห้ามปราบไว้ และเมื่อ 'เล่าหัว' มาเสนอไอเดียเรื่องเครื่องยิงหินก็ทำให้กองทัพโจโฉสามารถทำลายหอธนูของอ้วนเสี้ยวได้


  
 
( ขอบคุณรูปประกอบ "อ้วนเสี้ยว" จากอินเทอร์เน็ต )


เกมส์เริ่มมาพึงที่พลิกเมื่อลูกน้องคนสำคัญของอ้วนเสี้ยวคือเขาฮิวได้ย้ายค่ายมาอยู่กับโจโฉระหว่างการรบ ทำให้โจโฉได้รู้ถึงที่ตั้งการวางกำลังและจุดแข็ง จุดอ่อนของกองทัพอ้วนเสี้ยวทั้งหมด ทำให้โจโฉพลิกกลับมาเป็นฝ่ายชนะได้หลังจากเผาคลังเสบียงของกองทัพอ้วนเสี้ยวเป็นผลสำเร็จ ซึ่งหลังจากนั้นตระกูลอ้วนที่เคยเจ้าพ่อแหงภาคเหนือก็ค่อยๆผอมลง จนต้องล่มสลายไปในที่สุด ทำให้โจโฉผงาดขึ้นมาเป็นเจ้าพ่อแห่งภาคเหนือและสามารถวางแผนบุกภาคใต้ต่อได้


การรบใน 'ศึกกัวต๋อ' อาจจะเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของโจโฉ แต่ในอีกมุมนึงก็ต้องเป็นความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ของอ้วนเสี้ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตัดสินใจที่มีลางบอกเหตุของความพ่ายแพ้มาตั้งแต่ก่อนออกรบ


ในช่วงที่ฮ่องเต้กำลังหนีการติดตามของ ลิฉุย กุยกี อ้วนเสี้ยว กลับลังเลในการที่เข้าไปช่วยเหลือฮ่องเต้เพราะนั่นเท่ากับเป็นการตัดสิทธ์การสถาปนาตัวเองของอ้วนเสี้ยว ทำให้โจโฉฉวยโอกาสนี้ได้และโจโฉก็มีสภาพเป็นรัฐบาลกลางออกคำสั่งทุกอย่างในนามฮ่องเต้ได้


เมื่อโจโฉเริ่มมีอิทธิพลในภาคกลางมากขึ้น ที่ปรึกษาหลายคนของอ้วนเสี้ยวพยายามเบรคไม่ให้อ้วนเสี้ยวไปรบกับโจโฉด้วยเหตุผลทางยุทธศาสตร์ แต่อ้วนเสี้ยวก็ไปเชื่อคำพูดของ 'เล่าปี่' ที่ว่าการปราบโจโฉจะทำให้อ้วนเสี้ยวกลายมาเป็นคนมีหน้ามีตาปราบกังฉินอุ้มชูราชวงศ์ทำให้คนหน้าใหญ่อย่างอ้วนเสี้ยวรีบตัดสินใจตามแผนเล่าปี่ทันทีโดยไม่ได้นึกถึงผลประโยชน์แอบแฝงที่เล่าปี่มาใช้ยุอ้วนเสี้ยว


เมื่อเริ่มศึกกัวต๋อแล้วพันธมิตรสำคัญคือกังตั๋งถอนตัวไม่มาช่วยรบ ที่ปรึกษาหลายคนทั้ง 'เตียนห้อง' 'ชีสิว' พยายามดึงอ้วนเสี้ยวไม่ให้สู้รบแตกหัก แต่สิ่งที่อ้วนเสี้ยวทำคือเอาทั้งสองคนไปขังคุก และเมื่อรบแพ้กลับมาจริงๆก็สั่งประหารเตียนห้องเพราะอายที่ไม่ฟังคำเตือน


ในระหว่างการรบอ้วนเสี้ยวก็ต้องเสียขุนพลคนสำคัญมากมายไปให้กับโจโฉเพราะไม่ไว้วางใจลูกน้อง ทำให้เสียทั้งบุคลากรและขวัญกำลังใจ และสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดคือการให้ขุนพล 'อิเขง' ไปรักษาคลังเสบียงที่เป็นหัวใจของกองทัพ แต่อิเขงก็ทำผิดพลาดที่ไม่สามารถรักษาคลังเสบียงได้จนอ้วนเสี้ยวต้องมาพ่ายแพ้


และสิ่งสุดท้ายที่อ้วนเสี้ยวตัดสินใจผิดพลาดคือการวางตัวลูกคนเล็กให้มาสืบทอดตระกูล ทำให้เกิดศึกสายเลือดในตระกูลอ้วนจนผอมลงเหลือแต่กระดูก จนกระทั่งโจโฉมาปราบได้โดยไม่เปลืองแรง

 

(ขอบคุณรูปประกอบจากอินเทอร์เน็ต)


เมื่อหันกลับมามองในโลกของการลงทุน เราเรียนรู้อะไรได้จากความผิดพลาดของอ้วนเสี้ยวบ้าง?

  1. การตัดสินใจไม่มีใครการันตีได้ว่าจะถูกหรือผิด ที่การตัดสินที่แย่ที่สุดคือการตัดสินใจแบบกล้าๆ กลัวๆเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา พอได้ข่าวดีก็ซื้อ พอเห็นข่าวร้ายก็ขาย สุดท้ายก็ต้องมาซื้อๆขายๆ ไม่ได้เห็นผลตอบแทนที่เป็นกอบเป็นกำ

  2. เราไม่สามารถตัดสินใจถูกทุกเรื่องได้ แต่อย่างน้อยเรื่องสำคัญๆ ต้องถูกมากกว่าผิด เช่นถ้าจะลงทุนเป็นเงินก้อนใหญ่ก็ต้องคิด ต้องหาข้อมูลก่อนตัดสินใจให้รอบคอบ วางแผนในการบริหารเงินและกระจายความเสี่ยง เพราะถ้าผิดพลาดอาจจะหมายถึงหายนะของทั้งพอร์ตการลงทุนเหมือนที่อ้วนเสี้ยวตัดสินใจพลาดเรื่องการแต่งตั้งขุนพลรักษาคลังเสบียง

  3. ผลกระทบของสิ่งที่ตามมามักจะมากกว่าที่คิด ดังนั้นการตัดสินใจต้องมองระยะยาว อย่าให้เป็นเหมือนอ้วนเสี้ยวที่ตัดสินใจรบกับโจโฉเพราะอยากได้หน้าหรือการแต่งตั้งทายาทที่ไม่ได้คิดถึงเรื่องความขัดแย้งของลูกๆ การลงทุนที่หวังแต่กำไรระยะสั้นแต่ไม่มีแผนในระยาวหรือการจัดการกับเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดคิดมักจะสร้างปัญหาใหญ่ในภายหลัง


มีคำกล่าวที่ว่าคนที่ดีก็เป็นอย่างที่ดีให้เราเลียนแบบ แต่คนที่ไม่ดีก็เป็นตัวอย่างที่ดีให้เราไม่ต้องทำตาม อ้วนเสี้ยวถึงแม้จะมีข้อผิดพลาดมากมายในการรบ การออกศึกสงคราม แต่นี่ก็เป็นตัวอย่างที่ดี ที่ทำให้เราได้มามองย้อนดูตัวว่าทุกว่าเรากำลังคิด กำลังคิด กำลังตัดสินใจแบบอ้วนเสี้ยวอยู่หรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นก็ยังไม่สายเกินไปที่จะแก้ไข