บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองเป็นกลาง-ลบต่อตลาดหุ้น คาด SET Index อ่อนตัวลงทดสอบ 1,725 จุด ก่อนจะสลับรีบาวด์ แม้ว่าจะมีแรงหนุนจาก Fund Flow ต่างชาติที่ไหลเข้าต่อเนื่องจากคาดการณ์ FED ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุม 30 – 31 กรกฎาคม อย่างไรก็ตามนักลงทุนจะกลับมาให้ความสนใจผลประกอบการไตรมาส 2/2562 ที่เริ่ม Preview และจะประกาศตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-กลางเดือนสิงหาคม
ภาพรวมของกลุ่มหลัก เช่น ธนาคาร พลังงาน มีโอกาสทรงตัว-อ่อนตัวลงส่งผลให้ดัชนีขาดแรงกระตุ้น นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงแรงจากความกังวลดีมานด์น้ำมันที่ลดลง จากการผลกระทบเศรษฐกิจชะลอตัว รวมถึงความกังวลสงครามการค้าที่ยังไม่จบ หลังสหรัฐเตรียมปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรป (อียู) วงเงิน 4 พันล้านดอลลาร์ จะกดดันให้ดัชนีอ่อนตัวลง
ประเด็นสำคัญวันนี้
- ดัชนี้ PMI ภาคการผลิตซึ่งเป็นดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐและยุโรปยังไม่ฟื้นตัว : เมื่อคืนที่ผ่านมาสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐในเดือนมิถุนายนลดลงสู่ระดับ 51.7 จากระดับ 52.1 ในเดือนพฤษภาคม ขณะที่สหภาพยุโรปรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซนในเดือนมิถุนายน ลดลงสู่ระดับ 47.6 จาก 47.7 ในเดือนพฤษภาคม นับเป็นการลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ดัชนี PMI ที่ลดลงต่ำกว่าระดับ 50 ถือเป็นสัญญาณไม่ดี เพราะเป็นการบ่งชี้ถึงภาคการผลิตที่หดตัวและอาจจะกดดันให้ GDP ของสหรัฐและยุโรปชะลอตัวลงในระยะถัดไป
- OPEC มีมติขยายเวลาลดกำลังการผลิตไปอีก 9 เดือน แต่ราคาน้ำมันดิบร่วงแรง เนื่องจากนักลงทุนกลับมากังวลกับแนวโน้มเศรษฐกิจและอุปสงค์ที่ชะลอตัว : ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงแรงกว่า 2.84$ (-4.8%) ปิดที่ 56.25$/bbl สวนทางกับมติของกลุ่ม OPEC + Non OPEC ที่ตกลงขยายเวลาลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันออกไปอีก 9 เดือน จนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2563 จากโครงการเดิมที่หมดอายุไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทั้งนี้เป็นเพราะนักลงทุนกลับมากังวลกับปัญหาเศรษฐกิจและอุปสงค์ที่ชะลอตัว หลังจากสหรัฐและกลุ่มประเทศในยุโรปรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตออกมาลดลงอีกในเดือนมิถุนายน สะท้อนถึงภาคการผลิตที่หดตัว
- ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน คาดหวังรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเฟดปรับลดดอกเบี้ย : สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) รายงานผลสำรวจของนักลงทุนในช่วง 3 เดือนข้างหน้าพบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 109.44 หรือเพิ่มขึ้น 25.5% จากระดับ 87.2 ในเดือนก่อนหน้านับเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน ส่วนเป็นเพราะนักลงทุนมีความคาดหวังเชิงบวกว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย และรัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยกลุ่มธุรกิจที่นักลงทุนมองว่าน่าสนใจลงทุนมากที่สุดในช่วง 3 เดือนข้างหน้าคือกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ขณะที่กลุ่มมีเดีย เป็นกลุ่มที่ไม่น่าลงทุนที่สุด
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
- กลุ่มที่คาดว่างบไตรมาส 2/2562 จะเติบโตขึ้น (CPF, GFPT, TFG, CPALL, EA, BGRIM, GPSC, CKP, MTC, THANI, VGI, PLANB)
- กลุ่มขนส่งทางเรือ (PSL, TTA) อานิสงส์ค่าระวางเรือปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
- กลุ่มนิคมฯและรับเหมา ได้อานิสงส์ความคืบหน้ารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน รวมถึงโครงการพัฒนาท่าเรืออุตฯมาบตาพุดระยะที่ 3 (AMATA, WHA ,STEC, SEAFCO, CK)