นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการลงทุนของ ‘กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFFIF)’ มีมติจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 1/2562 ในอัตรา 0.0744 บาทต่อหน่วย พร้อมทั้งจ่ายเงินลดทุนอีกในอัตรา 0.0089 บาทต่อหน่วย สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีวันที่ 1 ต.ค. - 31 ธ.ค. 18 โดยจะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนพร้อมจ่ายเงินลดทุนของ ‘กอง TFFIF’ ในวันที่  15 มี.ค. 19 รวมเป็นเงินกว่า 380 ล้านบาท

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการจัดการลงทุนของบริษัท มีมติจ่ายเงินปันผลอีก 4 กองทุน ประกอบด้วย

1. ‘กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ซี. พี. ทาวเวอร์ โกรท (CPTGF)’ จ่ายปันผลครั้งที่ 20 ในอัตรา 0.1900 บาทต่อหน่วย รวมเป็นเงินกว่า 183 ล้านบาท
2. ‘กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 1 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGATIF)’ จ่ายเงินปันผล ครั้งที่ 13 ในอัตรา 0.1965 บาทต่อหน่วย รวมเป็นเงินกว่า 409 ล้านบาท
3. ‘กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ตลาดไท (TTLPF)’ จ่ายเงินปันผลครั้งที่ 33 ในอัตรา0.3900 บาทต่อหน่วย รวมเป็นเงินกว่า 70 ล้านบาท 

“สำหรับรอบ 3 กอง นี้ การจ่ายเงินปันผลในครั้งนี้ สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีวันที่ 1 ต.ค. -31 ธ.ค. 18 และจะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน ในวันที่ 15 มี.ค. 19 เช่นกัน”

‘กองทุนเปิดกรุงไทย พร็อพเพอร์ตี้  แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซิเบิ้ล D (KT-PIF-D)’ จ่ายปันผล ในอัตรา 0.50 บาทต่อหน่วย โดยจะจ่ายในวันที่ 7  มี.ค. 19 นี้  รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 31 ล้านบาท

“ในปี2018 กอง KT-PIF-D จ่ายเงินปันผลแล้วทั้งสิ้น 3 ครั้ง รวมอัตรา 0.60 บาทต่อหน่วย ซึ่งนับว่าเป็นกองทุนที่มีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ และมีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์และทรัพย์สินทั้งในและต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน ไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน”

นางชวินดา ยังกล่าวอีกว่า ปัจจุบัน ‘กอง KT-PIF-D’ ลงทุนในไทย 53% และสิงคโปร์ 42% จุดเด่นของกองทุนนี้คือ

• กองทรัสต์เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) เป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนน้อยกว่าหุ้น 
• กองทุนจะเน้นลงทุนในทรัพย์สินที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีอัตราการเช่าอยู่ในระดับสูงและการกระจายตัวของผู้เช่าที่ดี
• การจ่ายเงินปันผลสูงอย่างสม่ำเสมอ

 

สำหรับ REIT ในปีนี้น่าจะได้รับปัจจัยบวกจากการที่ตลาดเริ่มคลายความกังวลในเรื่องแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของทั่วโลกน่าจะเข้าใกล้จุดสูงสุดของอัตราดอกเบี้ยแล้ว โดยเฉพาะสหรัฐ

“ทั้งนี้  การจ่ายเงินปันผลทั้ง 4 กองทุน และ ‘กอง TFFIF’ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1,000  ล้านบาท”