ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ เปิดเผยว่า ได้ขอให้จีนยกเลิกกำแพงภาษีสินค้าเกษตรของสหรัฐทั้งหมดโดยทันที โดยระบุว่าจีนควรยอมอ่อนข้อให้สหรัฐเพราะการเจรจาการค้าระหว่างสองชาติมีความคืบหน้าที่ดี และสหรัฐได้เลื่อนการปรับขึ้นกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ จากอัตรา 10% เป็น 25% จากกำหนดเดิมวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา
“ผมขอให้จีนยกเลิกกำแพงภาษีสินค้าเกษตรของเราทุกรายการ รวมถึงเนื้อวัวและเนื้อหมู เพราะเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับเกษตรและผม” ทรัมป์ กล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มเกษตรกรถือว่าเป็นฐานเสียงสำคัญสำหรับพรรครีพับลิกันของทรัมป์ โดยถั่วเหลือง เนื้อวัว เนื้อหมู และเนื้อไก่ อยู่ในรายการสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ที่จีนตั้งกำแพงภาษีนำเข้า 25% เมื่อเดือน ก.ค.ปีที่แล้ว เพื่อตอบโต้สหรัฐที่ตั้งกำแพงภาษีสินค้าจีนก่อน ส่งผลให้การส่งออกสินค้าเกษตรของสหรัฐไปจีนเมื่อปีที่แล้วลดลงอย่างหนัก
แลร์รี คัดโลว์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวของสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐและจีนใกล้บรรลุข้อตกลงแห่งประวัติศาสตร์ ซึ่งจะกำหนดให้จีนยกเลิกอุดหนุนรัฐวิสาหกิจ และต้องเปิดเผยเมื่อธนาคารกลางเข้าแทรกแซงค่าเงินหยวน
อย่างไรก็ดี โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ กล่าวว่า การเจรจาการค้ายังเหลือรายละเอียดอีกมาก และสหรัฐจะไม่ยอมรับข้อตกลงการค้ากับจีนถ้าไม่มีการกำหนดให้จีนต้องปรับเปลี่ยนเชิงโครงสร้าง พร้อมกับเน้นย้ำว่าต้องมีกลไกติดตามการปฏิบัติตามข้อตกลง และต้องมีมาตรการลงโทษถ้าจีนฝ่าฝืน
ด้านบลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวว่า สหรัฐกำลังเตรียมบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีน และวางแผนจัดงานให้ทรัมป์และประธานธิบดี สีจิ้นผิง แห่งจีน ลงนามในข้อตกลงยุติสงครามการค้าอย่างเร็วที่สุดภายในกลางเดือนนี้ แม้ยังมีการถกเถียงภายในวอชิงตันว่าอ่อนข้อให้จีนมากเกินไปหรือไม่
ขณะที่แผนจัดงานลงนามภายในกลางเดือนนี้อาจเป็นไปได้ยาก เนื่องจากสีติดภารกิจการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน ซึ่งจะจัดจนถึงวันที่ 15 มี.ค. และมีกำหนดเยือนชาติอื่นอยู่แล้ว