Morning Bell by KTBST 5 มี.ค. 19

>> # SET Outlook

คาดดัชนีฯ แกว่งกรอบแคบ เจรจาการค้าสหรัฐฯใกล้จบ แต่ตลาดถูกจำกัดการขึ้น จากแรงขายนักลงทุนต่างประเทศ และกำไรตลาดที่ชะลอตัวลง .......... การเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน มีข่าวมาว่า ผู้นำสองฝ่ายน่าจะลงนามข้อตกลงการค้าได้ภายใน 27 มี.ค.นี้ซึ่งเป็นเรื่องที่บวกต่อเศรษฐกิจโลก แต่ตัวเลขเศรษฐกิจของหลายๆประเทศที่ยังส่งสัญญาณชะลอตัวทำให้ตลาดหุ้นเดินหน้าไปได้ไม่มาก ....... ด้านตลาดหุ้นไทย เรามองว่า แรงขายที่เกิดขึ้นในตลาด นอกจากผลกระทบ trade war จะเป็นเรื่อง งบ 4Q ที่ลดลง ถึง 35% YoY ส่งผลให้ P/E ตลาดพุ่งขึ้นไปถึง 17.6 เท่า และที่ถูกพูดถึงกันมาก คือการปรับพอร์ตของ MSCI ที่เพิ่มหุ้นจีน มีผลให้สัดส่วนของหุ้นไทยใน MSCI EM ลดลงจาก 2.44% (ข้อมูล ม.ค.62) เหลือ 2.38% ในเดือน พ.ย. จึงมีแรงขายในตลาดหุ้น TIP และที่อื่นๆ ....... วันนี้ เราจึงน่าจะยังเห็นแรงขายของนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนต่างประเทศอยู่

#Recommendation

จากแรงขายของนักลงและการอ่อนตัวลงของตลาดในภูมิภาคนี้ นักลลทุนรอการตัดสินคดียุบพรรค ส่งผลให้ตลาดหุ้นยังแกว่งตัวลงต่อได้ ..... event ที่มีผลต่อตลาด การเจรจาการค้าที่ใกล้จบและค่าเงินบาท ที่อ่อนลงมาแตะ 31.85 บาท/ดอลล่าร์ อาจส่งผลบวกสั้นๆ ต่อหุ้นส่งออก (CPF, HANA) ........ เรายังแนะนำ “ถือ” แต่หากดัชนีฯหลุดแนวรับสำคัญ 1620 จุด ให้ลดการถือหุ้นที่อิงทิศทางตลาดลงบางส่วน ...... หุ้นที่เราแนะนำในเชิงกลยุทธ์ เราคงหุ้นใน Weekly Strategy 4 ตัว ไว้ ประกอบด้วย EA , GULF , IVL , VNT และเพิ่มหุ้นเข้ามาในวันนี้ 2 ตัว คือ JMT และ SAWAD

#Technical : AEONTS ASIAN

JMT*:(ซื้อ, เป้าเชิงกลยุทธ์ 15.50 บาท) – มีโอกาสได้ซื้อหนี้เสียเพิ่มหลัง TMB ควบรวมกับธนาต

• เราเชื่อว่ากรณีหลังควบรวมกิจการระหว่าง TMB กับธนชาต มีโอกาสแบงก์จะหน่ายหนี้เสียออกมาและจะเป็นโอกาสของ JMT ที่จะเข้าซื้อหนี้เสียเหล่านี้มาบริหารเพิ่ม

• JMT ตั้งเป้ารายได้และกำไรสุทธิปีนี้เติบโต 50% จากความสามารถจัดเก็บหนี้ได้ดี และจะตั้งสำรองธุรกิจประกันน้อยลง

• JMT ปีนี้มีหนี้ที่ต้องเร่งเก็บ 6,000 ล้านบาท และคาดภายใน 2Q19 จะเร่งเก็บหนี้ได้ครบและจะ ส่งผลให้ครึ่งปีหลังจะมี รายได้และกำไรเพิ่มขึ้น อีกทั้งตั้งเป้ามีกระแสเงินสดจากการเก็บหนี้ 3,000 ล้านบาท

• ปัจจุบันราคาหุ้นเทรด PE ปีนี้ 20 เท่า ไม่แพงเพราะยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีในอดีตที่ระดับ -1.2 SD

 

SAWAD (ซื้อ, เป้าเชิงกลยุทธ์ 53 บาท) ปีนี้ลุยปล่อยสินเชื่อเพิ่ม NPLลด อย่างมีนัยสำคัญ

• ราคาที่ปรับลงมาเป็นโอกาสในซื้อสะสมรอบใหม่ ราคาปัจจุบันถือว่าไม่แพง เทรดกัน PBV ต่ำเพียง 4.5เท่า เทียบกับอดีต

• คาดผลการดาเนินงานปี 2019 ยังดีต่อเนื่องอยู่ที่ 3.3 พันล้านบาท (+20%yoy) โดยมองว่า Loan Yield ได้ผ่านจุดต่าสุดในปีที่ผ่านมา และจะทยอยเพิ่มขึ้น จากการครบอายุสัญญาเช่าซื้อที่มี Loan Yield ที่ต่า ควบคู่การปล่อยสินเชื่อใหม่ที่มี Loan Yield ที่สูงขึ้น

• ราคาไม่แพง ปัจจุบันเทรด PBV ต่าเพียง 4.8x เทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 5.6x เป้าพื้นฐาน 57 บาท (อิง PBV 4.2x)