TWPC มั่นใจผลประกอบการไตรมาส 1/62 เห็นสัญญาณฟื้นตัว เนื่องจากเริ่มรับรู้จาก "แม่สอด สตาร์ช" หลังจากเข้าซื้อกิจการ ช่วยเพิ่มกำลังการผลิตประมาณ 15% เน้นผลิตสินค้ากลุ่มแป้งสำมันปะหลัง HVA ช่วยผลักดันการเติบโต พร้อมตั้งเป้าปี 2562 รายได้เพิ่มขึ้น 6-8% พร้อมวางงบลงทุน 2,000 ลบ. ภายในอีก 2 ปี เน้นสร้างโรงงานแป้งมันสำปะหลังที่กัมพูชา ขยายกำลังการผลิตกลุ่มแป้งสำมันปะหลัง HVA และโรงไฟฟ้า
นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจไตรมาส 1/62 เริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะธุรกิจผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลัง เนื่องจากราคาต้นทุนหัวมันสำปะหลังที่ลดลง และเริ่มรับรู้รายได้ของ บริษัท แม่สอด สตาร์ช จำกัด และบริษัท แม่สอด ไบโอแก๊ส จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิต และจำหน่ายแป้งมันสำปะหลัง และผลิตแก๊สชีวภาพ โดยการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายการขยายการลงทุนของกลุ่มบริษัทฯ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิต และเป็นการกระจายแหล่งการจัดหาแหล่งวัตถุดิบ พร้อมทั้งสนับสนุนรายได้และกำไรของบริษัทฯ ให้สามารถเติบโตอย่างมั่นคงต่อเนื่องในระยะยาว
"ปัจจุบันบริษัทฯ เริ่มเดินเครื่องผลิตเต็มที่ ซึ่งถือว่าปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ นอกจากนี้หลังจากซื้อโรงงานแม่สอด สตาร์ช จะส่งผลให้บริษัทฯ มีวัตถุดิบเข้าสู่การผลิตมากขึ้น ช่วยเพิ่มกำลังการผลิตได้ประมาณ 15% จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตแป้งมันสำปะหลังอยู่ที่ 399,000 ตันต่อปี เป็น 465,000 ตันต่อปี ประกอบกับต้นทุนวัตถุดิบอยู่ในทิศทางลง มาอยู่ที่ระดับใกล้เคียงกับช่วงสิ้นปีก่อน ขณะที่ราคาส่งออกแป้งมันสำปะหลังคาดว่าจะสามารถทรงตัวอยู่ที่ 450 ดอลลาร์ต่อตันทั้งปีนี้"
นายโฮ เรน ฮวา กล่าวต่อถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2562 คาดว่ารายได้จะเติบโต 6-8%จากงวดเดียวกันปีก่อน เนื่องจากยอดขายทุกผลิตภัณฑ์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากเริ่มรับรู้รายได้ของ บริษัท แม่สอด สตาร์ช การขยายกำลังการผลิตสินค้าในกลุ่มแป้งสำมันปะหลัง HVA โดยยังเน้นขยายตลาดในประเทศจีน และไต้หวัน เพราะยังมีความต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามบริษัทฯ
ตั้งงบลงทุนรวมไว้ที่ประมาณ 2,000 ลบ. ภายในอีก 2 ปี โดยจะใช้ก่อสร้างโรงงานแป้งมันสำปะหลัง ที่กัมพูชา เฟส 2 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2563 และจะใช้เพิ่มกำลังการผลิตกลุ่มสินค้า HVA ภายในประเทศ รวมทั้งจะใช้งบลงทุนในการก่อสร้างโรงไฟฟ้า จำนวน 2 โรง ซึ่งโรงไฟฟ้าดังกล่าวจะเป็นการช่วยลดต้นทุนในการผลิตในด้านการใช้พลังงานได้ประมาณ 30 ลบ.ต่อปีต่อโรง
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2561 มียอดขายรวมเท่ากับ 7,248 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน โดยมาจากรายได้จากธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง 3,272 ล้านบาท คิดเป็น 45% รายได้จากธุรกิจแป้งมันสำปะหลังมูลค่าเพิ่ม(HVA) 2,560 ล้านบาท คิดเป็น 35% และรายได้จากธุรกิจอาหาร 1,452 ล้านบาทคิดเป็น 20%