“บลจ.แมนูไลฟ์”...ส่ง ‘MN-AEPLUS’ ลุยหุ้นคุณภาพเอเชีย มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว IPO วันที่ 12 – 18 มี.ค. 19 นี้
- การปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED)
- ความผันผวนของราคาน้ำมัน
- ความกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับประเทศคู่ค้าต่างๆ
โดยเฉพาะจีนและยุโรป และการไหลออกของเม็ดเงินลงทุนจากกลุ่มตลาดเกิดใหม่ซึ่งเป็นผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกและภูมิภาคเอเชียปรับตัวลงแรงในช่วงครึ่งปีหลัง
( ไมเคิล รีด )
“อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สถานการณ์หลายอย่างดีขึ้นทำให้นักลงทุนเริ่มหันกลับเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงซึ่งตลาดหุ้นเอเชียเป็นหนึ่งในตลาดที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุน ด้วยความเชื่อมั่นว่าภูมิภาคเอเชียยังคงเป็นศูนย์กลางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับที่สูง"
"โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่งในสองประเทศหลักที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ได้แก่ จีนและอินเดีย ประกอบกับตลาดหุ้นหลักๆ ในเอเชียที่ปรับตัวลงมามากทำให้ราคาหุ้นอยู่ในระดับที่น่าสนใจลงทุน จึงทำให้น่าจะมีเม็ดเงินลงทุนไหลกลับมายังภูมิภาคนี้อีกครั้ง”
นายชัยเกษม วัฒนศิริพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบริหารช่องทางจัดจำหน่าย บลจ.แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า จากการที่ ‘แมนูไลฟ์’ มีมุมมองในเชิงบวกต่อตลาดหุ้นเอเชียมากขึ้นในปี2019 จึงมองหาโอกาสการลงทุนในภูมิภาคดังกล่าวเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุน
โดยหลังจากที่ได้พิจารณากองทุนหุ้นเอเชียหลายกองทุนพบว่า ‘First State Asian Equity Plus Fund’ มีความน่าสนใจ ซึ่งมีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับที่ดีมากและชนะตลาดเกือบทุกช่วงเวลาซึ่งมีผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปีประมาณ 59.4% เทียบกับ MSCI AC Asia Pacific ex Japan Index (เกณฑ์มาตรฐาน) ที่ 33.5% และมีผลการดำเนินงานย้อนหลังแบบเฉลี่ยต่อปี (Annualised Returns) นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (25 ก.พ. 05) อยู่ที่ 11.5% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน 7.6% (ข้อมูล ณ 31 ม.ค. 19)
กอง First State Asian Equity Plus Fund นี้เป็น 1 ใน 3 กองทุนที่ลงทุนในเอเชียแปซิฟิก(ไม่รวมญี่ปุ่น) จากทั้งหมดทั่วโลก ที่ได้รับการจัดอันดับ 5 ดาว และ Analyst Rating ระดับโกลด์จาก Morningstar กองทุนนี้บริหารจัดการโดย First State Stewart Asia (“FSSA”) ซึ่งเป็นทีมบริหารกองทุนหุ้นเอเชียของ First State Investments (“FSI”)
โดยใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Bottom-up ในการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและค้นหาหุ้น (Stock Selection) ของบริษัทชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและอาจลงทุนในหุ้นของบริษัทญี่ปุ่นที่มีรายได้ส่วนใหญ่มาจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้
“โดยพอร์ตการลงทุนมีการกระจายการลงทุนในหุ้นประมาณ 60-70 ตัวที่ผ่านการคัดเลือกจากศักยภาพในการเติบโตของเงินปันผลและการเพิ่มขึ้นของมูลค่าหุ้นในระยะยาว”
ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุนเชื่อว่าหุ้นเอเชียมีแนวโน้มที่ดีในระยะยาว โดยได้รับประโยชน์จากทางด้านโครงสร้างประชากรและปัจจัยพื้นฐานที่มีการเติบโตแบบยั่งยืน ประกอบกับการปรับตัวลงของตลาดหุ้นในปีผ่านมายังทำให้ค่าเฉลี่ยของราคาต่อมูลค่าหุ้น (Price to Book) ของตลาดหุ้นเอเชียยังคงอยู่ในระดับที่ไม่แพงและต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหุ้นโลกซึ่งทำให้เพิ่มความน่าสนใจในการเข้าลงทุนเวลานี้
โดยพอร์ตการลงทุนล่าสุด ณ สิ้นเดือนมกราคมที่ผ่านมามีการลงทุนในตลาดหุ้นหลักๆ ได้แก่
- อินเดีย 19.3%
- ฮ่องกง 14.9%
- จีน 14.1%
- ไต้หวัน 9.4%
- ญี่ปุ่น 6.6%
นอกจากนี้ ด้วยกระบวนการลงทุนอย่างมีวินัยของ First State Investment จะทำให้กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง
นายชัยเกษม กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทได้พิจารณาจัดตั้ง “กองทุนเปิด แมนูไลฟ์ เอเชียน อิควิตี้ พลัส เอฟไอเอฟ (MN-AEPLUS)” ซึ่งเป็น Feeder Fund ลงทุนในกองทุน First State Asian Equity Plus Fund Class I (Accumulation) USD (กองทุนหลัก) ที่มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นคุณภาพแถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว โดยจะเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 12-18 มี.ค. 19 นี้