พาณิชย์รับมือสหรัฐขึ้นภาษี

>>

พาณิชย์เตรียมรับมือสหรัฐใช้มาตรา 232 ขึ้นภาษีสินค้ายานยนต์และชิ้นส่วน คาด พ.ค.นี้รู้ผลตัดสินใจ

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรม เจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้เชิญกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และชิ้นส่วนมาหารืออย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมกรณีที่สหรัฐจะมีการเรียกเก็บภาษีสินค้ายานยนต์เพิ่มขึ้นใน อัตรา 25% ภายใต้กฎหมาย Trade Expansion Act of 1962 มาตรา 232 หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ส่งรายงานความมั่นคงแห่งชาติ มาตรา 232 ถึงนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ แล้วเมื่อช่วงปลายเดือน ก.พ. 2562 ที่ผ่านมา

"ขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าสหรัฐเรียกเก็บภาษีสินค้ายานยนต์และชิ้นส่วนหรือไม่ อัตราเท่าไร เพราะยัง ไม่เปิดเผย แต่คาดการณ์กันว่าอัตราที่เรียกเก็บภาษียานยนต์และชิ้นส่วนจากผู้นำเข้าทั่วโลกจะอยู่ที่ 25% โดยขั้นตอนจากนี้ต้องรอประธานาธิบดีสหรัฐ ตัดสินใจภายใน 90 วัน ว่าจะดำเนินการ ตามคำแนะนำรายงานฉบับนี้หรือไม่ ซึ่งจะทราบผลภายในเดือน พ.ค.นี้" นาง อรมน กล่าว

ทั้งนี้ หากสหรัฐมีการเรียกเก็บภาษีสินค้ายานยนต์และชิ้นส่วนตามมาตรา 232 จริง แนวทางที่จะแก้ไขปัญหาเพื่อลดผลกระทบ คือยึดแนวทางเดียวกับสินค้าเหล็กและอะลูมิเนียมที่สหรัฐเคยเรียกเก็บภายใต้มาตรา 232 เมื่อต้นปี 2561 ที่ผ่านมา โดยไทยจะขอยกเว้นการเรียกภาษีสินค้าทั้งประเทศ

โดยชี้แจงถึงสาเหตุที่สหรัฐจำเป็นต้องนำเข้ายานยนต์และชิ้นส่วนจากไทยอยู่ เช่น อุตสาหกรรมภายในสหรัฐไม่มีการผลิต หรือสินค้าที่นำเข้าจากไทยไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงภายในสหรัฐ รวมทั้งจะขอยกเว้นภาษีเป็นรายบริษัทหรือรายชิปเมนต์ที่จะต้องประสานกับผู้นำเข้าสหรัฐในการขอยกเว้น

"เรื่องดังกล่าวกรมได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และได้หารือกับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนในการแก้ไขปัญหาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นได้หากมีการเรียกเก็บภาษี ยานยนต์และชิ้นส่วนจริง ซึ่งในส่วนของ เหล็กและอะลูมิเนียมได้มีการขอยกเว้นเป็นรายบริษัทและรายชิปเมนต์ที่ส่งออก ได้สำเร็จ ทำให้การส่งออกเหล็กและอะลูมิเนียมได้รับผลกระทบไม่มาก" นาง อรมน กล่าว