ธกส.หวั่นเกษตรกรหนี้ท่วม

>>

ธ.ก.ส.เผยผลสำรวจเกษตรกรมีหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือน 1.35 แสน/ปี เพิ่มขึ้น 1.3% วิ่งกู้หลายสัญญา เสี่ยงเป็นหนี้เสียเพิ่มขึ้น

นายสมเกียรติ กิมาวหา ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ผลการสำรวจหนี้สินครัวเรือนเกษตรครึ่งหลังปี 2561 โดยเก็บข้อมูลจากเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส.ทั่วประเทศ 980 ราย พบว่า ครัวเรือนเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส.มีรายได้รวมเฉลี่ย 295,420 บาท/ปี เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.9% และมีค่าใช้จ่ายรวมเฉลี่ยต่อครัวเรือน 240,680 บาท/ปี เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.1% ส่งผลให้มีสัดส่วน รายได้มากกว่าค่าใช้จ่าย 1.23 เท่า เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเล็กน้อย 0.8%

ทั้งนี้ พบว่าครัวเรือนเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส.ส่วนใหญ่ 66.2% มีการออมเงิน โดยมีสัดส่วนการออมอยู่ที่ 6.4% ของรายได้ทั้งหมด มีการออมเงินเพิ่มขึ้นตามรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการส่งเสริมการออมเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเกษตรกร ผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินของ ธ.ก.ส.

ขณะเดียวกันเกษตรกรมีหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือน 135,220 บาท/ปี เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.3% หนี้ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 89.1 เป็นหนี้ในระบบ ส่วนหนี้นอกระบบมีเพียง 10.9% โดยปริมาณหนี้นอกระบบปรับตัวลดลงจากปีก่อน 18.5% ส่วนภาระหนี้ต่อรายได้เฉลี่ยต่อเดือนคิดเป็น 45.77% ปรับตัวลดลงจากปีก่อน 0.61%

อย่างไรตาม ภาระหนี้ยังคงสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเสถียรภาพของภาคครัวเรือนที่กำหนดระดับ 40% ซึ่งสะท้อนว่าครัวเรือนเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส.ยังมีโอกาสผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้น

สำหรับหนี้สินครัวเรือนเกษตรครึ่งหลังปี 2561 มีสัดส่วนต่อจีดีพีอยู่ที่ 18.12% ปรับตัวลดลงจากปีก่อน 4.13% เนื่องจากการขยายตัวของมูลค่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจประจำปียังคงสูงกว่าการขยายตัวของหนี้ครัวเรือนเกษตร โดยประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจปี 2561 จะอยู่ที่ 4% เป็นผลจากกำลังซื้อของภาคครัวเรือนปรับตัวดีขึ้นตามแนวโน้มของรายได้ที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้น้อย

อย่างไรก็ดี แม้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนเกษตรจะปรับตัวดีขึ้น แต่ยังคงต้องติดตามพฤติกรรมการก่อหนี้ใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มครัวเรือนเกษตรกรที่มีรายได้น้อยที่กู้หนี้เต็มวงเงินและมีภาระผูกพันกับหนี้หลายสัญญา ซึ่งอาจมีการก่อหนี้นอกระบบที่จะส่งผลกระทบต่อสัดส่วนหนี้สินครัวเรือนเกษตรและการเติบโตของเศรษฐกิจระยะต่อไป