นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน ครั้งที่ 23 และผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน ครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 2-5 เม.ย. 2562 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ จะมีการหารือถึงข้อตกลงที่สำคัญ 4 เรื่อง ได้แก่
1.จะมีการลงนามในพิธีสารการเปิดเสรีการค้าและบริการ รอบที่ 8 โดยจะเปิดเสรีทางด้านหลักทรัพย์มากขึ้น จะให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ เช่น บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน สามารถให้นักลงทุนต่างชาติถือหุ้นได้ 100% จากเดิมจะต้องมีคนไทยถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 50%
นอกจากนี้ จะมีการเซ็นสัญญาเรื่องเนชั่นแนล ซิงเกิ้ล วินโดวส์ ของ 10 ประเทศในกลุ่มอาเซียน ซึ่งจะพร้อมดำเนินการ 9 ประเทศ โดยมีเพียงประเทศ สปป.ลาว ที่ยังไม่มีความพร้อม โดย นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง สั่งการให้กระทรวงการคลังและกรมศุลกากรเข้าไปช่วยให้คำแนะนำ เพื่อให้สามารถดำเนินการเรื่องดังกล่าวได้พร้อมกันทั้ง 10 ประเทศในปีนี้
2.จะมีการเซ็นสัญญากับธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) เพื่อให้มีการระดมทุนสำหรับโครงการที่เป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อม (กรีน ไฟแนนซิ่ง)
3.จะมีการหารือในเรื่องการเตรียมความพร้อมถึงความท้าทายด้านการเงินในอนาคตของภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ ดิจิทัล แอทเซ็ท และไซเบอร์ ซีเคียวริตี้ ซึ่งจะเป็นภัยคุกคามทางการเงินของแต่ละประเทศ โดย รมว.การคลัง และผู้ว่าการธนาคารกลางของแต่ละประเทศต้องมาหารือกันเพื่อรับมือเรื่องดังกล่าวในอนาคต
4.จะมีการทำข้อตกลงเรื่องความร่วมมือในการชำระเงินระหว่างประเทศผ่านระบบพร้อมเพย์และคิวอาร์โค้ด เพราะหลายประเทศในกลุ่มอาเซียนมีความพร้อมและสนใจ โดยเฉพาะกัมพูชาและ สปป.ลาว มีความพร้อมเรื่องคิวอาร์โค้ด ขณะที่สิงคโปร์จะใช้ระบบพร้อมเพย์ ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างมากในการลดต้นทุนทางการเงินของแต่ละประเทศ สะดวกและรวดเร็วอีกด้วย