บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน)
มองตลาดหุ้นวันนี้ (2 เมษายน 2562) ในเชิงบวก คาดดัชนีปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,650 – 1,655 จุด เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวหลังตัวเลข PMI ภาคการผลิตเดือนมี.ค. ของทั้งสหรัฐและจีนปรับตัวขึ้น (สหรัฐ 55.3 และ จีน 50.8) รวมถึงความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนเม.ย. นี้ นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือนเหนือ 61 เหรียญต่อบาร์เรล ตอบรับสหรัฐคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่านและเวเนซุเอลาจะเป็นแรงหนุนต่อกลุ่มพลังงานอีกด้วย อย่างไรก็ตาม คาดว่าดัชนีจะมีแรงขายสลับให้ดัชนีอ่อนตัวลงจากความไม่แน่นอนของภาวะการเมืองภายในประเทศ
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน
- กลุ่มพลังงานคาดงบไตรมาส 1/62 เติบโตจากราคาน้ํามันที่ปรับตัวขึ้น และกลุ่มโรงกลั่นค่าการกลั่นฟื้นตัวขึ้นรวมถึง Stock gain เช่น PTTEP ,TOP, PTTGC, SPRC
- กลุ่มที่ได้รับอานิสงส์การเลือกตั้งหนุนความเชื่อมั่นการลงทุน เช่น AMATA, STEC, BEM และ BTS
- กลุ่มที่คาดว่างบไตรมาส 1/62 จะเติบโตขึ้น เช่น BDMS, BCH, EA และ BGRIM
- กลุ่มที่ได้ประโยชน์ MSCI อนุมัติรวม NVDR ไว้ในการคํานวณน้ําหนักการลงทุน เช่น SCC, BDMS, CPN , LH ,
- BANPU ,INTUCH, RATCH, CENTEL และ DTAC
บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดจะฟื้นตัวจากแรงซื้อเก็งกำไรของนักลงทุนภายในประเทศ และกระแสความคาดหวังที่จะเห็นกระแสเงินทุนไหลเข้าจากนักลงทุนต่างชาติหรือกองทุนต่างชาติ ที่จะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนตามดัชนี MSCI นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ปรับตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านสำคัญแถว 70-72 เหรียญต่อบาร์เรล จะเป็นเป็นปัจจัยหนุนให้มีแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงานและโรงกลั่น ทั้งนี้ คาดว่าค่าการกลั่นในไตรมาส 2/62 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับค่าการกลั่นในไตรมาส 1/62 ที่อยู่ที่ระดับ 4 เหรียญต่อบาร์เรล
ส่วนกลยุทธ์การลงทุน Trading ไม่ต่ำกว่า 1,620 จุด นะนำ ซื้อเก็งกำไร
สำหรับหุ้นแนะนำ เช่น PTTEP, PTTGC, TOP, ESSO