เข้าเดือนเมษายนแล้ว เชื่อว่าสิ่งที่หลายๆ คนรอคอยคงหนีไม่พ้นวันหยุดยาว ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งผู้คนเริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา ทำให้กรุงเทพเปลี่ยนไปจากเดิม เป็นเมืองที่มีการเจรจาหนาแน่น แทบกลายเป็นเมืองร้างกันเลยทีเดียว ในขณะที่ต่างจังหวัดและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ กลับคับคั่งไปด้วยคนเมืองกรุงที่ออกไปท่องเที่ยว และใช้เงินซื้อสิ่งของต่างๆอย่างคึกคัก

โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่าช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 12-16 เมษายน 2562 คนกรุงเทพฯ จะมีการใช้จ่ายคิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 25,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.6% จากช่วงสงกรานต์ของปีก่อน แบ่งเป็น

• ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงสังสรรค์ (อาหารและเครื่องดื่ม)  9,650 ล้านบาท
• ค่าที่พักและเดินทาง  6,650 ล้านบาท
• ช็อปปิ้ง  4,600 ล้านบาท
• ทำบุญไหว้พระ  2,050 ล้านบาท
• และค่าใช้จ่ายในกิจกรรมอื่นๆ เช่น ให้เงินผู้ใหญ่ในครอบครัว, ค่าเที่ยวสถานที่ต่างๆ
  ดูหนังฟังเพลง และเล่นน้ำ รวม  2,050 ล้านบาท
  
  

จะเห็นได้ว่าช่วงสงกรานต์มีความต้องการใช้จ่ายสูงมาก ซึ่งไม่ได้เป็นเฉพาะช่วงนี้เท่านั้น แต่เป็นปกติของทุกเทศกาลที่ผู้คนจะมีความต้องการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นกว่าช่วงอื่นๆ ของปี เรื่องนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) บอกว่า ในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ เป็นช่วงที่ประชาชนมีความต้องการใช้เงินสูงกว่าปกติ  โดยประเมินว่าสถาบันการเงิน จะเบิกจ่ายธนบัตรมูลค่ารวมประมาณ 18,600 ล้านบาท ใกล้เคียงกับการเบิกจ่ายในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

นอกจากนี้ธปท. ยังได้บอกไปยังธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ให้เตรียมสำรองธนบัตร เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนในช่วงเทศกาลอย่างเพียงพอด้วย ซึ่งจากการเก็บข้อมูลของ Wealthy Thai พบการสำรองเงินสดของ 5 ธนาคาร ซึ่งจากการรวบรวมตัวเลขพบว่า 5 ธนาคาร มีการสำรองเงินสดรวมกว่า 126,886 ล้านบาท

เริ่มจากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เตรียมสำรองเงินสดสำหรับให้บริการในสาขาและเครื่องเอทีเอ็ม เพื่อรองรับการใช้จ่ายช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ 37,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1,500 ล้านบาท แบ่งเป็น เขตกรุงเทพมหานคร 18,750 ล้านบาท และเขตต่างจังหวัด 18,750 ล้านบาท

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เตรียมสำรองเงินสดสำหรับสาขาและเครื่องเอทีเอ็มทั่วประเทศ เพื่อรองรับวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 13-16 เมษายน 2562 รวมทั้งสิ้น 36,000 ล้านบาท โดยธนาคารจะเปิดให้บริการเฉพาะสาขาไมโคร 319 แห่งทั่วประเทศเท่านั้น และจะกลับมาเปิดให้บริการสาขาอื่นๆ ตามปกติในวันที่ 17 เมษายน 2562

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เตรียมสำรองเงินสดสำหรับให้บริการในสาขาและเครื่องเอทีเอ็ม เพื่อรองรับการใช้จ่ายช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 12-16 เมษายน 2562 รวมทั้งสิ้น 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็น สำรองเงินสดผ่านสาขา จำนวน 8,900 ล้านบาท และสำรองเงินสดในเครื่องเอทีเอ็ม 9,267 เครื่องทั่วประเทศอีก 21,100 ล้านบาท

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เตรียมสำรองเงินสดสำหรับให้บริการในสาขาและเครื่องเอทีเอ็ม  เพื่อรองรับการใช้จ่ายช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 8-16 เมษายน 2562 รวม 14,886 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 225 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น สำรองเงินสดในเครื่องเอทีเอ็ม 10,361 ล้านบาท และสาขา 4,525 ล้านบาท

และสุดท้ายธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) เตรียมสำรองเงินสดสำหรับสาขาและเครื่องเอทีเอ็มทั่วประเทศ เพื่อรองรับวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่  9-16 เมษายน 2562 รวมทั้งสิ้น 8,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 600 ล้านบาท

โดยธนาคารธนชาตจะหยุดให้บริการสาขานอกห้างสรรพสินค้าตั้งแต่วันที่ 13-16 เมษายน 2562 ส่วนสาขาในห้างสรรพสินค้าจะหยุดให้บริการในวันที่ 13 เมษายน 2562 วันเดียวเท่านั้น

จากการรวบรวมตัวเลขแล้วจะพบว่า เม็ดเงินที่ต้องสำรองไว้มีปริมาณที่สูงมาก ซึ่งยังไม่นับรวมกับธนาคารอีกหลายแห่ง หากมีการใช้จ่ายใกล้เคียงกับตัวเลขดังกล่าวจริง น่าจะทำให้เม็ดเงินที่หมุนเวียนช่วงสงกรานต์สูง อาจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยให้คึกคักขึ้นมาบ้าง…

ที่มา 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

ธนาคารแห่งประเทศไทย

ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)