“บลจ.กสิกรไทย”...ส่ง ‘กองตราสารหนี้ต่างประเทศ’ อายุ3 เดือน6 เดือน และ 1 ปีชูผลตอบแทน 1.60% - 2.00% ต่อปี ขาย 17-22เม.ย. นี้
นายนาวิน อินทรสมบัติ Chief Investment Officer บลจ.กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดขาย 3 กองทุนตราสารหนี้ ได้แก่ ‘กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือน BT (KFF3MBT)’ ประมาณการผลตอบแทนไว้ที่ 1.60% ต่อปี ‘กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน GR (KFF6MGR)’ ประมาณการผลตอบแทนไว้ที่ 1.80% ต่อปี และ ‘กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี GC (KFF1YGC)’ ประมาณการผลตอบแทนไว้ที่ 2.00% ต่อปี โดยทั้ง 3 กองทุนเปิดเสนอขายในระหว่างวันที่ 17-22 เม.ย. 19 ทั้ง 3 กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน สำหรับผู้ลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 500 บาท
( นายนาวิน อินทรสมบัติ )
“ภาวะตลาดตราสารหนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเพิ่มขึ้นทุกช่วงอายุโดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 2 ปีเพิ่มขึ้น 4 bps มาอยู่ที่ 2.36%และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10ปีเพิ่มขึ้น 3 bps มาอยู่ที่ 2.50% ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐมีแนวโน้มผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มขึ้น โดยส่งสัญญาณไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ สำหรับอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้เอเชียมีความน่าสนใจค่าเงินเอเชียมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเทียบดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ควรจับตานโยบายทางการเงินของรัฐบาลในเอเชียเพื่อรักษาความสมดุลระหว่างค่าเงินและอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ และติดตามความผันผวนของค่าเงินเอเชียในระยะสั้น”
นายนาวิน ยังกล่าวอีกว่า การเลือกลงทุนในกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Term Fund) จะช่วยล็อคผลตอบแทนได้ เพราะได้รับผลตอบแทนตามที่ประมาณการไว้ อีกทั้งยังช่วยกระจายความเสี่ยงและช่วยให้พอร์ตการลงทุนมีประสิทธิภาพภายใต้สภาวะตลาดที่มีความผันผวน ทั้งนี้ เมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน ได้แก่ ‘กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY)’ , ‘กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY)’ หรือ ‘กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ระยะสั้น (K-SF)’ เพื่อโอกาสการรับผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง
นายนาวิน อินทรสมบัติ Chief Investment Officer บลจ.กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดขาย 3 กองทุนตราสารหนี้ ได้แก่ ‘กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือน BT (KFF3MBT)’ ประมาณการผลตอบแทนไว้ที่ 1.60% ต่อปี ‘กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน GR (KFF6MGR)’ ประมาณการผลตอบแทนไว้ที่ 1.80% ต่อปี และ ‘กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี GC (KFF1YGC)’ ประมาณการผลตอบแทนไว้ที่ 2.00% ต่อปี โดยทั้ง 3 กองทุนเปิดเสนอขายในระหว่างวันที่ 17-22 เม.ย. 19 ทั้ง 3 กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน สำหรับผู้ลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 500 บาท
( นายนาวิน อินทรสมบัติ )
“ภาวะตลาดตราสารหนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเพิ่มขึ้นทุกช่วงอายุโดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 2 ปีเพิ่มขึ้น 4 bps มาอยู่ที่ 2.36%และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10ปีเพิ่มขึ้น 3 bps มาอยู่ที่ 2.50% ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐมีแนวโน้มผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มขึ้น โดยส่งสัญญาณไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ สำหรับอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้เอเชียมีความน่าสนใจค่าเงินเอเชียมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเทียบดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ควรจับตานโยบายทางการเงินของรัฐบาลในเอเชียเพื่อรักษาความสมดุลระหว่างค่าเงินและอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ และติดตามความผันผวนของค่าเงินเอเชียในระยะสั้น”
นายนาวิน ยังกล่าวอีกว่า การเลือกลงทุนในกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Term Fund) จะช่วยล็อคผลตอบแทนได้ เพราะได้รับผลตอบแทนตามที่ประมาณการไว้ อีกทั้งยังช่วยกระจายความเสี่ยงและช่วยให้พอร์ตการลงทุนมีประสิทธิภาพภายใต้สภาวะตลาดที่มีความผันผวน ทั้งนี้ เมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน ได้แก่ ‘กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY)’ , ‘กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY)’ หรือ ‘กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ระยะสั้น (K-SF)’ เพื่อโอกาสการรับผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง
