นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมทุนภาครัฐและเอกชน (คณะกรรมการพีพีพี) ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในวันนี้ (18 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ที่ประชุมได้พิจารณาร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน เรื่อง กิจการเกี่ยวเนื่องที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการดำเนินกิจการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะตามมาตรา 7(3) แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 พ.ศ... ซึ่งจะมีการเสนอประกาศฉบับนี้ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในวันที่ 24 เม.ย. 2562 ต่อไป
ทั้งนี้ ประกาศฉบับนี้ทำให้ชัดเจนว่ากิจการร้านค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) ไม่เป็นกิจการเกี่ยวเนื่องที่จำเป็น ในกิจการท่าอากาศยานตามมาตรา 7 พ.ร.บ.ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ซึ่งจะทำให้หลังจากนี้ ทอท. ดำเนินการเปิดประมูลดิวตี้ฟรีได้ภายใต้อำนาจของคณะกรรมการของ ทอท. ซึ่งวันนี้(18 เม.ย.) เป็นวันสุดท้ายในการขายซองประมูลในส่วนของดิวตี้ฟรีท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
“หลังจากปิดขายซองประมูลในวันนี้แล้ว วันจันทร์ ที่ 22 เม.ย. 2562 จะเป็นขั้นตอนการชี้แจงคุณสมบัติแก่ผู้ซื้อซองประมูล โดยจะเชิญผู้แทนจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) มาร่วมรับฟังการชี้แจงด้วย ซึ่งตามกำหนดจะได้ผู้ชนะการประมูลในวันที่ 31 พ.ค. 2562 เพื่อนำเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ด ทอท. ในเดือนมิ.ย. และดำเนินกระบวนการลงนามสัญญาต่อไป”นายนิตินัย กล่าว
ผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า ที่ต้องเร่งดำเนินการเปิดประมูลดิวตี้ฟรีให้เร็วนั้น เนื่องจากจำเป็นต้องให้กระบวนการคัดเลือกแล้วเสร็จก่อนหน้าสัญญาเดิมจะสิ้นสุดลงประมาณ 1 ปี เนื่องจากผู้ชนะประมูลต้องมีกระบวนการเตรียมการสั่งสินค้าล่วงหน้า และยังมีงานก่อสร้างเกี่ยวเนื่องด้วย
ในส่วนของสัญญาประมูลดิวตี้ฟรี 3 สนามบินในภูมิภาคอีก 3 แห่ง ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเปิดขายซองประมูล จะปิดการขายหลังจากนี้ประมาณ 10 วัน
นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการ สคร. กรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการพีพีพี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพีพีพี ได้มีมติรับทราบการพิจารณาของคณะอนุกรรมการด้านกฎหมายและเห็นชอบร่างประกาณศคณะกรรมการพีพีพี เรื่องกิจการเกี่ยวเนื่องที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการดำเนินกิจการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะตามมาตรา 7 (3) ท่าอากาศยาน การขนส่งทางอากาศ แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป โดยมีกิจการเกี่ยวเนื่องที่จำเป็นสำหรับกิจการท่าอากาศยาน จำนวน 12 กิจการ และกิจการการขนส่งทางอากาศจำนวน 1 กิจการ