นายปิ่นสาย สุรัสวดี รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า จากการหารือตัวแทนสมาคมสมาคมธนาคารไทย กรมสรรพากรจะทำการแก้ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร (ฉบับที่ 344) ลงวันที่ 4 เม.ย. 2562 ที่ให้ผู้ฝากเงินแจ้งความประสงค์กับธนาคารที่มีเงินฝากอยู่ ว่ายินยอมให้ธนาคารส่งข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝากประเภทออมทรัพย์ของผู้ฝากเงินให้แก่กรมสรรพากรทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้กรมสรรพากรทราบจำนวนดอกเบี้ย เงินฝากประเภทออมทรัพย์ของผู้ฝากเงินในทุกบัญชีของทุกธนาคาร ซึ่งกรมสรรพากรจะได้ส่งข้อมูลผู้ได้รับดอกเบี้ยเงินฝากประเภทออมทรัพย์ที่เกินกว่า 2 หมื่นบาท เพื่อให้ธนาคารหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายต่อไป
สำหรับประกาศดังกล่าว ส่งผลกระทบกับผู้ฝากเงินบัญชีออมทรัพย์ในระบบกว่า 80 ล้านบัญชี ซึ่ง 99% มีรายได้ดอกเบี้ยไม่ถึง 2 หมื่นบาท ไท่ต้องเสียภาษีดอกเบี้ย แต่ต้องมาติดต่อแบงก์เพื่อให้ส่งข้อมูลกรมสรรพากร เพราะไม่เช่นนั้นจะถูกเก็บภาษีเงินฝากทันที
นายปิ่นสาย กล่าวว่า สำหรับการแก้ประกาศใหม่ จะเปลี่ยนเป็นผู้มาติดต่อกับแบงก์กรณีที่ไม่ต้องการให้ส่งข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝากให้กรมสรรพากรเท่านั้น ทำให้ผู้ฝากเงินส่วนใหญ่ไม่ต้องมาติดต่อธนาคาร แต่ข้อมูลดอกเบี้ยยังต้องถูกส่งมาให้กรมสรรพากรเหมือนเดิม ซึ่งได้ให้ทางสมาคมธนาคารไทยไปหารือว่าจะดำเนินการได้หรือไม่
"การแก้ไขประกาศ เป็นการแก้ไขประเด็นปัญหาเรื่องการยินยามให้ส่งข้อมูลที่มีปัญหาทางปฏิบัติมาก ซึ่งกรมสรรพากรต้องแก้ไขไม่ให้กระทบกับคนส่วนใหญ่ 99% แต่เรื่องการของการเสียภาษีดอกเบี้ยยังเหมือนเดิมคือไม่เกิน 2 หมื่นบาท ไม่ต้องเสีย แต่หากเกินกว่านั้นต้องเสีย ซึ่งกรมสรรพากรเก็บภาษีดอกเบี้ยเงินฝากได้ปีละประมาณ 1,000 ล้านบาท" นายปิ่นสาย กล่าว
ด้านนายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยหลังหารือกับกรมสรรพากรว่า ทางสมาคมธนาคารไทยได้ขอเลื่อนให้ลูกค้าแสดงความยินยอมส่งข้อมูลดอกเบี้ยกรมสรรพากรไปก่อน เนื่องจากการจ่ายดอกเบี้ยออมทรัพย์ธนาคารจะจ่ายปีละ 2 ครั้ง คือ สิ้นเดือน มิ.ย. และสิ้นเดือน ธ.ค. ซึ่งธนาคารกังวลว่าลูกค่าส่วนใหญ่จะยังดำเนินการมายินยอมให้ส่งข้อมูลให้กรมสรรพากรไม่ทันเพราะเวลาเหลือน้อย และทำให้ธนาคารต้องหักภาษีของลูกค้าที่ส่วนใหญ่ไม่ต้องเสียภาษีดอกเบี้ย
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ผู้บริหารสมาคมธนาคารไทย จะมีการประชุมหาทางออกแก้ปัญหา ตามข้อเสนอของกรมสรรพากร ว่าทำได้หรือไม่ เพราะมีเรื่องระเบียวกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคล ที่ต้องนำมาพิจารณา เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดการเปิดเผยข้อมูลลูกค้า