นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท. รับทราบ เรื่องที่มีการหารือระหว่างกรมสรรพากรกับสถาบันการเงิน ในเรื่องกระบวนการนำส่งข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ของลูกค้าให้กับกรมสรรพากร ซึ่งมีประเด็นเรื่องของระบบงาน เช่น ระบบไอที ของสถาบันการเงินที่อาจต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยนเพื่อให้สามารถนำส่งข้อมูลดังกล่าวได้อย่างครบถ้วน จึงอาจต้องมีการหารือเพิ่มเติม เพื่อทำความเข้าใจร่วมกันมากขึ้นในเรื่องวิธีการปฏิบัติ ข้อติดขัด ผลกระทบต่อประชาชน และทางเลือกในการดำเนินการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของนโยบาย
ทั้งนี้ วันที่ 23 เม.ย.2562 ผู้บริหารสมาคมธนาคารไทย ได้ประชุมหารือถึงแนวทางประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ หลังจากประชุมหารือกับกรมสรรพากรในช่วงเช้า โดยยังกังวลหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายของธนาคารพาณิชย์ในการเปิดเผยข้อมูลลูกค้า
น.ส.ชุลีพร น่วมทนง รองเลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ในวันที่ 25 เม.ย.นี้ ผู้บริหารสมาคมธนาคารไทยจะหารือกับกรมสรรพากรอีกครั้ง ถึงร่างประกาศอธิบดีกรมสรรพากรที่จะออกประกาศซึ่งจะมีการแก้ไขเพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ฝากเงินซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายย่อย โดยจะให้ผู้ที่ไม่ประสงค์ส่งข้อมูลให้กรมสรรพากรมาเซ็นหนังสือกับธนาคารว่าไม่ขอส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร แต่ถ้ารายใดไม่มาเซ็นหนังสือ ข้อมูลดอกเบี้ยจะถูกส่งไปกรมสรรพากร
อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ จะต้องรอดูประกาศทางการของกรมสรรพากรอีกครั้ง ก่อนที่จะนำกลับมาหารือในคณะทำงาน นักกฎหมาย เพราะต้องดูว่าประกาศของกรมสรรพากร ขัดกับกฎหมายของกฎหมายธนาคารพาณิชย์หรือไม่
ปัจจุบันในระบบธนาคารพาณิชย์มีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์กว่า 80 ล้านบัญชี มี 1% มีรายได้ดอกเบี้ยเกิน 2 หมื่นบาท และต้องเสียภาษี ส่วนอีก 99% มีรายได้ดอกเบี้ยไม่ถึงที่ต้องเสียภาษี