นายเอก สิทธิเวคิน รองผู้ว่ารฟท. กล่าวว่ากรณีการชดใช้ค่าเสียหายโครงการโฮปเวลล์นั้นวงเงินล่าสุดที่ต้องชำระคือ 2.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น
- เงินต้น 1.2 หมื่นล้านบาท
- และดอกเบี้ย 1.3 หมื่นล้านบาท
ตามเงื่อนไขคิดค่าดอกเบี้ยย้อนหลังปีละ 7.5% นับตั้งแต่วันที่บอกเลิกสัญญาปี 2540-2541 สำหรับผู้รับผิดชอบมี 3 กลุ่มคือ รัฐบาล กระทรวงคมนาคมและรฟท. ขณะนี้อยู่ระหว่างแบ่งสัดส่วนการรับภาระหนี้ของแต่ละฝ่าย แต่สุดท้ายรัฐบาลก็ต้องช่วยชำระหนี้ก้อนนี้ ตามประมวลกฎหมายมาตรา 43 แห่งพรบ.การรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ระบุว่า ถ้ารายได้มีจำนวนไม่พอสำหรับรายจ่ายดังกล่าว และการรถไฟแห่งประเทศไทยไม่สามารถหาเงินชดเชยทางอื่น รัฐพึงรับผิดชอบเท่ากับจำนวนเงินที่ขาด อย่างไรก็ตามจะต้องเร่งจ่ายเงินให้กับคู่กรณีภายใน 180 วันตามที่ศาลมีคำสั่ง
ด้านนายกุลิศ สมบัติศิริ ประธานคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยก่อนการประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) รฟท.ว่า ก่อนหน้านี้ตั้งแต่รับตำแหน่งประธานบอร์ด ตั้งแต่ปี 2561 ไม่เคยได้รับรายงานเรื่องคดีโฮปเวลล์ ทำให้บอร์ดไม่มีการเตรียมการมาก่อน ส่วนแนวทางการชำระหนี้นั้นจะขอฟังข้อมูลทั้งหมดก่อน เพราะไม่สามารถที่จะสรุปได้ ซึ่งต่อรอให้คณะกรรมการรถไฟฯ พิจารณาก่อนเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาต่อไป แต่แนวทางยังคงต้องรอการพิจารณาจากบอร์ดการรถไฟก่อน เบื้องต้นจะเสนอให้กระทรวงคมคมร่วมจ่ายหนี้ด้วย อย่างไรก็ตามในวันจันทร์นี้จะมีการเสนอให้กระทรวงคมนาคมรับทราบก่อนที่วันอังคารจะเสนให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป