นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบไปด้วย สอท. หอการค้าไทย และสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยหลังการประชุมว่าที่ประชุมได้มีการรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย ซึ่งยังคงกรอบประมาณการเครื่องชี้วัดเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ไว้ตามเดิม โดยการขยายตัวเศรษฐกิจ(จีดีพี)อยู่ที่ 3.7-4% การส่งออกอาจขยายตัวได้ 3.5% และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 0.8-1.2% ขณะเดียวกันจะติดตามสถานการณ์ทั้งปัจจัยภายนอกท่ามกลางความเสี่ยงจากประเด็นการค้าโลก และปัจจัยภายในประเทศ อย่างใกล้ชิดต่อไป
สำหรับเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกปี 2562 ยังขยายตัวต่ำกว่าในไตรมาสที่ 4 ปี 2561 ที่ขยายตัว 3.7% โดยเป็นผลจากการส่งออกที่หดตัว ส่งผลกระทบต่อการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลดลง นอกจากนี้ การท่องเที่ยวเติบโตในทิศทางชะลอตัว ส่วนหนึ่งเป็นผลจากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่สูงในปีก่อนโดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวจีน และเครื่องชี้การใช้จ่ายภายในประเทศทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนก็ชะลอตัว
สำหรับในช่วงที่เหลือของปี 2562 นั้น ที่ประชุม กกร. มองว่า แนวโน้มการส่งออกของไทยจะยังคงถูกกดดันจากทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน ทั้งจากภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจหลักอย่างสหรัฐฯ จีน สหภาพยุโรป, ประเด็นข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่มีแนวโน้มจะกลับมาปะทุขึ้นอีกครั้งหลังทางการสหรัฐฯเตรียมประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนในวันที่ 10 พ.ค.นี้ หากการเจรจาไม่มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนทิศทางค่าเงินบาทที่ยังมีแนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวน
นอกจากนี้เมื่อพิจารณาปัจจัยภายในประเทศ กกร. เห็นว่า แม้จะมีมาตรการพยุงเศรษฐกิจของภาครัฐ ทั้งมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและมาตรการด้านภาษี จะมีส่วนช่วยประคองเศรษฐกิจในช่วงรอยต่อทางการเมืองได้ระดับหนึ่ง แต่ทิศทางการใช้จ่ายภายในประเทศหลังจากนี้ โดยเฉพาะการลงทุนของภาครัฐและเอกชน ยังคงต้องรอความชัดเจนทางการเมืองและนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่
