WHAUP ไตรมาส 1/2562 มีกำไร 424.4 ลบ. ลดลง 40.8 %

>>

Hightlight

  • WHAUP เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2562 มีกำไรสุทธิ 424.4 ล้านบาท ลดลง 40.8 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • พร้อมขยายธุรกิจน้ำทั้งในประเทศและต่างประเทศตามแผน โดยส่งบริษัทย่อย เข้าซื้อหุ้น Cua Lo ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำประปา ในจังหวัด เหงะอาน ประเทศเวียดนาม จำนวน 47.31%
  • ส่วนธุรกิจพลังงาน โดยเฉพาะ Solar Rooftop เซ็นสัญญาติดตั้งตามเป้าแล้ว 11.2 MW
  • ด้านธุรกิจค้าปลีกก๊าซธรรมชาติในนิคมอุตสาหกรรม ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 4 (WHA ESIE 4) เปิดให้บริการภายในเดือนพ.ค.นี้

 

 

 

นายวิเศษ จูงวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP กล่าวว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2562 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม จำนวน  459.4  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนจำนวน 339.2 ล้านบาท ลดลง 48.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลง 156.0 ล้านบาทจากปีก่อน และมีการปรับปรุงบัญชีตามมาตรฐานบัญชีเกี่ยวกับรายได้จากการทำสัญญากับลูกค้า (TFRS 15) ของโครงการโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน จำนวน 64.6 ล้านบาทตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 424.2 ล้านบาท ลดลง 40.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ (Normalized Net Profit) ปรับด้วยกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนและการปรับปรุงรายการทางบัญชี (TFRS 15) จำนวน 394.2 ล้านบาท ลดลง 15.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

ทั้งนี้การเติบโตเพิ่มขึ้นของรายได้รวมในไตรมาส 1/2562 นั้น เนื่องจากปริมาณการใช้น้ำของลูกค้าภายในนิคมอุตสาหกรรม และจากการขยายตัวของลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ปทั้งรายเดิมและรายใหม่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลยอดปริมาณการขายน้ำอยู่ที่ระดับ 27 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่บริษัทฯ ได้มีการบริหารจัดการต้นทุนขายและการให้บริการที่ดีขึ้น โดยนำน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดกลับมาใช้ใหม่ด้วยนวัตกรรมทีทางบริษัทฯ นำมาใช้ โดยมีโครงการแรก คือ โครงการ Reclaimed Water Project (RO) ซึ่งได้เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 3 ปี 2561 ที่ผ่านมา ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอตะวันออก (มาบตาพุด) (WHA EIE) ด้วยกำลังการผลิต 7,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจาก 35.1% เป็น 36.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน


สำหรับธุรกิจพลังงาน โครงการโรงไฟฟ้ากัลฟ์ เอ็นแอลแอล 2 มีกำลังการผลิตตามติดตั้งรวม 127 เมกกะวัตต์ หรือคิดเป็นกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 32 เมกะวัตต์ ได้เริ่มเปิดดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในเดือนมกราคม ปี 2562 ส่งผลให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ ในไตรมาส 1/2562 อยู่ที่ 552 เมกะวัตต์  ทั้งนี้โครงการโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน ได้มีการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนเป็นเวลา 39 วัน


ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวเพิ่มว่า สำหรับภาพรวมธุรกิจในไตรมาส 2/2562 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าการขยายธุรกิจสาธารณูปโภคทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยเฉพาะการดำเนินการธุรกิจสาธารณูปโภคด้านน้ำในเขตอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ-1 เหงะอาน ประเทศเวียดนามที่อยู่ระหว่างพัฒนา ซึ่งมีกำหนด COD ในไตรมาส 3/2562 และในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 (WHA ESIE 3) ซึ่งมีกำหนด COD ในไตรมาส 4/2562 นอกจากนี้ยังมีการขยายโครงการ Reclaimed Water Project Phase 2 (RO) ที่นิคม WHA EIE ซึ่งมีกำหนด COD ในไตรมาส 2 ปี 2562 ด้วยกำลังการผลิต 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน


ส่วนการลงทุนโครงการ Solar Rooftop ในไตรมาส 1/2562 บริษัทฯ มีโครงการที่ COD แล้วทั้งหมด 4.6 เมกะวัตต์ และมีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 14.3 เมกะวัตต์ ซึ่งตามแผนจะทะยอย COD ในปี 2562 –ไตรมาส 1/2563


นอกจากนี้ธุรกิจค้าปลีกก๊าซธรรมชาติโครงการ ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์น ซีบอร์ด เอ็นจีดี 4 ในนิคมอุตสาหกรรม ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 4 ซึ่งพร้อมดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ หลังจากประสบความสำเร็จในการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ธุรกิจค้าปลีกก๊าซธรรมชาติโครงการ ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์น ซีบอร์ด เอ็นจีดี 2 ไปแล้วในช่วงปลายปี 2561 ที่ผ่านมา