Hightlight
- บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ว่ามีรายได้รวม 393.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.91 % จากรายได้รวม 374.67 ล้าน บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
- และมีกำไรสุทธิ 36.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.57% จากกำไรสุทธิ 35.58 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
- สำหรับไตรมาส 2 นี้ บริษัทได้ลูกค้าสายเรือรายใหม่ สายเรือ VASI จากประเทศสิงคโปร์ โดยเริ่มเข้าเทียบท่าเรือสหไทย ตั้งแต่กลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา
นายบัญชัย ครุจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2562 มีรายได้รวม 393.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.91% จเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 36.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.57% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสาเหตุหลักมาจากปริมาณตู้สินค้าจากเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศและเรือขนส่งสินค้าชายฝั่งที่เข้ามาใช้บริการที่ท่าเรือมีปริมาณเพิ่มขึ้น และกิจกรรมต่อเนื่องอื่นๆ ยังเติบโตได้ดี
สำหรับไตรมาส 2 นี้ บริษัทได้ลูกค้าสายเรือรายใหม่ สายเรือ VASI จากประเทศสิงคโปร์ โดยเริ่มเข้าเทียบท่าเรือสหไทย ตั้งแต่กลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะมีปริมาณการขนส่งคอนเทนเนอร์ของสายเรือ VASI ประมาณ 1,600 teus/เดือน ซึ่งได้รับความพึงพอใจเป็นอย่างดี จากการให้บริการกับสายเรือ VASI เน้นไปที่สินค้า ประเภทปุ๋ยและเคมีภัณฑ์
โดยมีเส้นทางจากประเทศไทยไปยังท่าเรือจิตตะกอง บังคลาเทศ โดยครงซึ่งถือว่าเป็นเส้นทางที่มีความต้องการของตลาดอย่างมาก นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้มีการขยายฝูงรถเพื่อให้บริการขนส่งทางบกแก่ลูกค้าสายเรือและผู้นำเข้าส่งออก เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริการที่ลูกค้าพึงพอใจ ทำให้เชื่อมั่นว่ารายได้จะเติบโตได้ตามคาดการณ์
บริษัทมีแผนจะขยายธุรกิจท่าเรือและโลจิสติกส์แบบครบวงจร เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจของ บริษัท และทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่องอย่างมั่นคง โดยการลงทุนสร้างท่าเรือพาณิชย์แห่งที่ 3 และขยายศูนย์กระจายสินค้าต่อยอดธุรกิจ ก้าวสู่การเป็นผู้นำการให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร โดยมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 138 ล้านหุ้น มูลค่า (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท
ซึ่งบริษัทฯ จะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 92 ล้านหุ้น เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering-RO) ในอัตราส่วน 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 4.00 บาท โดยกำหนดจองซื้อและชำระเงินในวันที่ 17 พฤษภาคม – 24 พฤษภาคม 2562 และจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 46 ล้านหุ้น เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิ ที่จะซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) รุ่นที่ 1 หรือ PORT – W1 ที่บริษัทจะขายให้ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใน อัตราส่วน 2 หุ้นเพิ่มทุนต่อ 1 วอร์แรนต์ โดย PORT – W1 มีอายุ 3 ปี มีอัตราการใช้สิทธิวอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิ 6.50 บาท/หุ้น
สำหรับการเพิ่มทุนในครั้งนี้
- บริษัท บางกอก ริเวอร์ เทอร์มินอล จำกัด (BRT) ร่วมกับบริษัท APM Terminals จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ A.P. Moller-Maersk สายเรืออันดับหนึ่งของโลก และกลุ่มน้ำตาลมิตรผลซึ่งเป็น 1 ในผู้ส่งออกน้ำตาลรายใหญ่ที่สุดของไทย เพื่อสร้างท่าเรือพาณิชย์แห่งที่ 3 รองรับการขยายตัวของ การนำเข้าและส่งออกของประเทศที่เพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทฯจะมีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 38 ส่วนบริษัท APM Terminals จำกัด และ กลุ่มมิตร ผล ถือหุ้น ร้อยละ 33 และ 29 ของทุนจดทะเบียนตามลำดับ
ซึ่งการลงทุนใน BRT จะเพิ่มความสามารถในการให้บริการท่าเรือได้อีกประมาณ 180,000 TEUs/ปี รวมกับความสามารถในการให้บริการเดิมของบริษัทฯ และบริษัทย่อย เป็น 920,000 TEUs/ปี หรือเพิ่มขึ้นราว 24% - ลงทุนในบริษัท บางกอก โลจิสติกส์ พาร์ค จำกัด (BLP) ร่วมกับบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FRASERS (ชื่อเดิม คือ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเนคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำการให้บริการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมของไทย