ทรัมป์ไม่พร้อมดีลจีน หัวเว่ยลั่นใครอยากจะดีลด้วย

>>

โลกสงบยาก สองยักษ์ใหญ่ไม่มีท่าทียอมอ่อนข้อกัน ล่าสุดเจ้าสัวหัวเว่ยยังถึงกับแสดงจุดยืนที่แข็งกร้าว


ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐกล่าวระหว่างการเยือนญี่ปุ่นว่า สหรัฐไม่พร้อมที่จะทำข้อตกลงทางการค้ากับจีน และยังขู่ว่าสหรัฐอาจจะเพิ่มอัตราภาษีศุลกากรต่อสินค้าจีนมากขึ้นกว่านี้และอย่างง่ายดายกว่านี้ด้วย โดยท่าทีของทรัมป์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากการเจรจาทางการค้าระหว่างสองประเทศพบกับทางตันเมื่อต้นเดือนนี้เพราะแต่ละฝ่ายกล่าวโทษกันเอง โดยทรัมป์ยังขู่ว่าจะเพิ่มอัตราภาษีอีกเป็นมูลค่าหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ


“ผมคิดว่าพวกเขา (จีน) อาจหวังว่าจะได้ข้อตกลงที่เตรียมพร้อมไว้แล้วทั้งๆ ที่ยังไม่ได้พยายามเจรจาใหม่ พวกเขาต้องการทำข้อตกลง แต่เราไม่พร้อมที่จะทำข้อตกลง” ทรัมป์กล่าวเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ที่งานแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ที่กรุงโตเกียว


ทรัมป์กล่าวว่า นักธุรกิจต่างย้ายออกจากจีนไปยังประเทศที่ไม่ถูกขึ้นภาษี รวมถึงสหรัฐและประเทศเพื่อนบ้านในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น ถึงกระนั้นทรัมป์ก็ยังแย้มว่า ทั้งจีนและสหรัฐอาจจะลงรอยกันได้


“ผมคิดว่าบางทีในอนาคต จีนและสหรัฐจะบรรลุข้อตกลงการค้าที่ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน และเราหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะผมไม่เชื่อว่าจีนจะแบกรับภาษีนับร้อยล้านเหล่านี้ได้อีกต่อไป ผมไม่เชื่อว่าพวกเขาจะทำแบบนั้นได้” ทรัมป์กล่าว


ขณะเดียวกัน เหรินเจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งบริษัทหัวเว่ยให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg Television โดยตอบประเด็นที่ทรัมป์เคยเสนอให้นำเอากรณีหัวเว่ยมาเป็นข้อต่อรองในการเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ ซึ่งเหรินชี้ว่าเป็น "เรื่องโจ๊ก" และบอกว่าหัวเว่ยไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสงครามการค้าจีน-สหรัฐ


เหรินกล่าวว่า "สหรัฐไม่เคยซื้อผลิตภัณฑ์ของเรา ถึงสหรัฐต้องการจะซื้อผลิตภัณฑ์ของเราในอนาคต เราก็คงไม่ขายให้ ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเจรจา" และบอกว่า "ผมจะเมินทรัมป์ แล้วเขาจะเจรจากับใครล่ะ?"


เหรินเจิ้งเฟยยังบอกว่า ถ้าหาทรัมป์โทรหาเขา เขาก็คงไม่รับสาย และทรัมป์ก็ไม่มีเบอร์ของเขาอยู่ดี อีกอย่าง เขาเห็นข้อความที่ทรัมป์โพสต์ในทวิตเตอร์แล้ว รู้สึกน่าหัวร่อเพราะเป็นข้อความที่ขัดแย้งกันเอง แล้วคนแบบทรัมป์จะเป็นนักต่อรองชั้นยอดได้อย่างไร?