Hightlight
- พีดีเฮ้าส์ประเมินตลาดรับสร้างบ้าน ไตรมาส 2/2562 แผ่ว จากปัจจัยการเมืองภายในและเศรษฐกิจโลกส่งผลกระทบความเชื่อมั่นผู้บริโภค
- กังวลสถานการณ์ครึ่งปีหลังกำลังซื้อแนวโน้มชะลอตัว
- ตลาดบ้านสร้างเองและธุรกิจรับสร้างบ้านนั้น ไม่ได้รับอานิสงค์จากมาตรการกระตุ้นตลาดที่อยู่อาศัยของรัฐบาล จึงทำให้ผู้ประกอบธุรกิจรับสร้างบ้านต้องหากลยุทธ์การตลาดออกมากระตุ้นกำลังซื้อและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคมากขึ้น
นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด ภายใต้แบรนด์ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านในช่วงไตรมาส 2 มีทิศทางเติบโตแบบชะลอตัว ด้วยเพราะมีปัจจัยลบหลาย ๆ ด้าน ทั้งจากสถานการณ์ทางการเมืองที่แย่งชิงกันจัดตั้งรัฐบาลของ 2 ขั้วอำนาจ ประกอบกับปัจจัยด้านเศรษฐกิจทั้งภาคการส่งออกที่ชะลอตัว และภาคการท่องเที่ยวที่ไม่ขยายตัวตามที่คาดการณ์ไว้ อันเป็นผลมาจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
ซึ่งแน่นอนว่าปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อภายในประเทศ รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการออกมากระตุ้นตลาดที่อยู่อาศัย ด้วยการลดหย่อนภาษีเงินได้ สำหรับผู้ที่ซื้อบ้านหลังแรกราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท แต่น่าเสียดายที่มาตรการดังกล่าว หนุนแต่เฉพาะธุรกิจบ้านจัดสรรและคอนโดฯ เท่านั้น
อย่างไรก็ดีในช่วง 2 ไตรมาสก่อนหน้านี้ พีดีเฮ้าส์สามารถเร่งปิดการขายและมียอดจองสร้างบ้านเฉลี่ยไตรมาสละ 300 ล้านบาทเศษ ทำให้มีปริมาณงานสร้างบ้านตุนไว้ที่จะเริ่มลงมือก่อสร้างในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ สถานการณ์ปัจจุบันจึงไม่น่าเป็นกังวลเท่าไรนัก ห่วงก็แต่สถานการณ์ในช่วงครึ่งปีหลังมากกว่า หากการเมืองภายในประเทศยังวุ่นวาย และเศรษฐกิจโลกที่ยังคงชะลอตัว ซึ่งจะกระทบต่อความเชื่อมั่นและกำลังซื้อผู้บริโภคแน่นอน และจะส่งผลให้ตลาดรับสร้างบ้านหดตัวตาม
ผู้ประกอบการในธุรกิจจะแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะรายเล็กรายย่อยที่ขาดจุดขาย หรือผลิตภัณฑ์และบริการไม่มีความแตกต่างที่ชัดเจนในสายตาผู้บริโภค ก็จะตกอยู่ในสถานการณ์แข่งขันลำบาก ฉะนั้นบรรดาผู้ประกอบการจึงควรต้องเร่งปรับตัว เพื่อทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการได้สะดวกและมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
น.ส.ถิรพร สุวรรณสุต กรรมการบริหารสายงานการตลาด บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในฐานะผู้บริหารสิทธิ์แฟรนไชส์ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ กล่าวว่า ตลาดบ้านสร้างเองและธุรกิจรับสร้างบ้านนั้น ไม่ได้รับอานิสงค์จากมาตรการกระตุ้นตลาดที่อยู่อาศัยของรัฐบาล จึงทำให้ผู้ประกอบธุรกิจรับสร้างบ้านต้องหากลยุทธ์การตลาดออกมากระตุ้นกำลังซื้อและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคมากขึ้น ในส่วนของพีดีเฮ้าส์เองก็จะเน้นเรื่องความชัดเจนของตำแหน่งทางการตลาดมากขึ้น ภายใต้จุดขาย “สร้างบ้านอนุรักษ์พลังงาน” สื่อสารผ่านการตลาดออนไลน์หลาย ๆ ช่องทาง
พรีแฟบบรีเคชั่นแอนมัลติจ๊อยล็อคซีสเต็มท์
นอกจากนี้พีดีเฮ้าส์ยังชูจุดแข็งเรื่องความเชี่ยวชาญการก่อสร้างบ้านระบบโครงสร้างสำเร็จรูป ที่เรียกว่าพรีแฟบบรีเคชั่นแอนมัลติจ๊อยล็อคซีสเต็มท์ (Prefabrication & Multi - joint Lock System) สามารถก่อสร้างได้รวดเร็วและมีคุณภาพแน่นอนสม่ำเสมอ โดยมีแบบบ้านให้เลือกปลูกสร้างกว่า 200 แบบ ตามงบประมาณและรสนิยม ตลอดจนการให้บริการหลังการขายหรือการรับประกันที่ดีกว่ารายอื่น ๆ
สำหรับช่วงท้ายไตรมาส 2 นี้ พีดีเฮ้าส์ เตรียมนำเสนอแบบบ้านซีรีส์ใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ โมเดิร์นมินิมอล (Modern Minimal) จำนวน 6 แบบ โดยแบ่งขนาดพื้นที่ใช้สอยเป็น 2 กลุ่มคือ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 150-200 ตารางเมตร ระดับราคา 3-4 ล้านบาท และขนาดพื้นที่ใช้สอย 200-250 ตารางเมตร ระดับราคาบ้านอยู่ที่ 4-6 ล้านบาท เพื่อตอบโจทย์ครอบครัวรุ่นใหม่ ครอบครัวที่กำลังขยับขยายหรือสร้างครอบครัวใหม่ และเน้นให้สมาชิกในครอบครัวทุกช่วงวัยสามารถอยู่อาศัยได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมตั้งเป้ายอดขายครึ่งปีแรก 2562 ไว้ที่ประมาณ 500 ล้านบาท