บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองเป็นกลาง โดยคาด SET Index แกว่งตัว 1,665 - 1680 จุด เนื่องจากคาดว่านักลงทุนจะชะลอการซื้อขายเพื่อรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 18 – 19 มิถุนายน (คาดคงดอกเบี้ยที่ 2.5%) รวมถึงรอฟังคำแถลงว่าจะส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงถัดไปหรือไม่ เพราะมีผลต่อกระแสเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ ( Fund Flow) ที่จะไหลเข้าลงทุนในตลาดเกิดใหม่
นอกจากนี้ความกังวลสถานการณ์ Trade war ที่ยังคงยืดเยื้อจะเป็นแรงกดดันต่อทิศทางดัชนีอีกด้วย โดยล่าสุดอินเดียประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ 28 รายการเพื่อตอบโต้การถูกตัดสิทธิ GSP ประกอบกับสหรัฐเริ่มทำประชาพิจารณ์กับกลุ่มธุรกิจต่างๆ เป็นเวลา 7 วันในการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนอีก 3 แสนล้านดอลลาร์
กลยุทธ์การลงทุน : Selective Buy
- กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากภาวะการเมืองชัดเจน (AMATA, WHA, STEC, CK , SEAFCO)
- กลุ่ม Domestic Play (AOT, TTW, CPALL, BEM, BTS, BDMS , EA , BGRIM , TPCH )
- หุ้นที่คาดว่าจะได้เข้าคำนวณ SET 50 รอบใหม่ (OSP, SAWAD) ส่วน SET 100 (OSP, JAS, JMT, ITD)
หุ้นแนะนำวันนี้
เลือก CK เป็น Top pick ของกลุ่มผู้รับเหมาขนาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะได้อานิสงส์โดยตรงจากการเร่งลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ประกอบกับราคาหุ้นของ CK ในปัจจุบันยังไม่ได้สะท้อนมูลค่าเงินลงทุนในกลุ่มบริษัทลูก (BEM, CKP และ TTW) ซึ่งคิดเป็น NAV ประมาณ 78,000 ล้านบาท เทียบกับ Market cap ของ CK ที่ 49,123 ล้านบาท
SEAFCO แนะนำทยอยสะสม SEAFCO ราคาหุ้นยัง Laggard เมื่อเทียบกับกลุ่ม ทั้งๆ ที่ SEAFCO เป็นกลุ่มผู้รับเหมาเสาเข็มและฐานรากซึ่งจะได้รับเงินหรือประโยชน์ก่อนผู้ก่อสร้างรายอื่นๆดังนั้นหากรัฐบาลเร่งประมูลโครงการขนาดใหญ่ SEAFCO จะได้ประโยชน์เป็นรายแรก