"คิง เพาเวอร์" จ่ายปีละ 2.35 หมื่นล้านมัดใจทอท.บริหารดิวตี้ฟรี 4 สนามบิน

>>

บอร์ดทอท.ไฟเขียวคิง พาวเวอร์บริหารดิวตี้ ฟรี 4 สนามบิน ทิ้งห่างข้อเสนอคู่แข่งไม่เห็นฝุ่น สูงกว่าคาดการณ์ 135% สัญญา10 ปี ทุ่มจ่ายผลตอบแทนปีละ2.35 หมื่นล้านบาท


นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร(บอร์ด)ได้เห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชนเพื่อบริหารโครงการพื้นที่เชิงพาณิชย์ 3 ส่ัญญา แบ่งเป็น

  1. โครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์สนามบินสุวรรณภูมิ
  2. โครงการบริหารพื้นที่ร้านค้าปลอดภาษี(ดิวตี้ ฟรี)สนามบินสุวรรณภูมิ
  3. โครงการบริหารพื้นที่ร้านค้าปลอดภาษี(ดิวตี้ ฟรี) 3สนามบินได้แก่ สนามบินภูเก็ต สนามบินเชียงใหม่และสนามบินหาดใหญ่


ซึ่งพบว่าเอกชนที่ได้คะแนนคัดเลือกดีที่สุด คือบริษัท คิง เพาเวอร์ จำกัด เป็นผู้ได้รับสิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ซึ่งได้มีการกำหนดอายุสัญญา 10 ปี 6 เดือน ระหว่างวันที่ 28 ก.ย. 2563 ถึงวันที่ 31 มี.ค. 2574


สำหรับในขั้นตอนการเปิดซองข้อเสนอด้านราคาพบว่าผู้ชนะเสนอผลตอบแทนในปีแรกของทั้ง 3 โครงการรวมอยู่ที่ 2.35 หมี่นล้านบาท สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ระดับราว 1 หมื่นล้านบาท อย่างมีนัยยะสำคัญคิดเป็นตัวเลขที่สูงกว่าคาดการณ์ 135% พร้อมเงื่อนไขปรับค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายปีให้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อที่อ้างอิงจากกระทรวงพาณิชย์ และการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศของทุกๆปี ตลอดอายุสัญญา ส่งผลให้ทอท.จะรับรู้รายได้ในปีแรกคือปี 2564 อยู่ที่ 2.35 หมื่นล้านบาท


สำหรับผลคะแนนการคัดเลือกนั้น โครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์สนามบินสุวรรณภูมิ อันดับ 1 บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จากัด ซึ่งเป็นผู้ได้รับสิทธิที่คะแนนสูงสุด คือ 95.20 คะแนน และเสนอ ค่าผลประโยชน์ตอบแทนปีละ 5,798,000,000 บาท อันดับ 2 บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จากัด (มหาชน) คือ 80.81 คะแนน และเสนอค่าผลประโยชน์ตอบแทนปีละ 3,003,000,000 บาท


ส่วนโครงการ ดิวตี้ ฟรี สนามบินสุวรรณภูมิ

  • อันดับ 1 บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด เป็นผู้ได้รับสิทธิที่คะแนนสูงสุดคือ 94.30 คะแนน และเสนอค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายปี (Minimum Guarantee) ปีแรกเป็นเงินจำนวน 15,419,000,000 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

  • อันดับ 2 กิจการร่วมค้าการบินกรุงเทพ ล็อตเต้ ดิวตี้ฟรี (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) คือ 83.10 คะแนน และ เสนอค่าผลประโยชน์ตอบแทนปีละ 8,516,653,333 บาท

  • อันดับ 3 บริษัท โรงแรมรอยัลออคิด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ยื่นข้อเสนอการดำเนินงานในนามกิจการร่วมค้า ประกอบด้วย บริษัทโรงแรมรอยัลออคิด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท เอ็มไพร์ เอเชีย กรุ๊ป จำกัด และ WDFG UK LIMITED คือ 78.85 คะแนน และเสนอค่าผลประโยชน์ตอบแทนปีละ 7,255,000,000 บาท

ด้านโครงการบริหารพื้นที่ร้านค้าปลอดภาษี(ดิวตี้ ฟรี) 3 สนามบินได้แก่ สนามบินภูเก็ต สนามบินเชียงใหม่และสนามบินหาดใหญ่

  • อันดับ 1 บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จากัด ซึ่งเป็นผู้ได้รับสิทธิทคะแนนสูงสุด คือ 96.10 คะแนน และเสนอ ค่าผลประโยชน์ตอบแทนปีละ 2,331,000,000 บาท

  • อันดับ 2 บริษัท โรงแรมรอยัลออคิด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ยื่นข้อเสนอการดาเนินงานในนามกิจการ ร่วมค้า ประกอบด้วย บริษัทโรงแรมรอยัลออคิด (ประเทศไทย) จากัด (มหาชน), บริษัท เอ็มไพร์ เอเชีย กรุ๊ป จากัด และ WDFG UK LIMITED คือ 86.72 คะแนน และเสนอค่าผลประโยชน์ตอบแทนปีละ 2,012,000,000 บาท

  • อันดับ 3 กิจการร่วมค้าการบินกรุงเทพ ล็อตเต้ ดิวตี้ฟรี (ท่าอากาศยานภูมภาค) คือ 84.74 คะแนน และ เสนอค่าผลประโยชน์ตอบแทนปีละ 2,108,635,888 บาท


นายนิตินัยกล่าวต่อว่า ทอท.ได้มีการพิจารณานอกจากค่าผลประโยชน์ตอบแทนที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนแล้ว แผนธุรกิจที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคะแนนด้านเทคนิค ยังมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยยะ โดยบริษัทที่เข้าร่วมประมูลสามารถสอบถามขอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคะแนนในแต่ละด้านของบริษัทตนเองกับทาง ทอท. ได้ต่อไป ทั้งนี้เชื่อว่าการประมูลในรูปแบบนี้จะให้ผลประโยชน์กับองค์กรและประเทศสูงสุด


ด้านนายวิชัย บุญยู้ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานการพัฒนาธุรกิจและการตลาด ทอท. กล่าวว่า สาเหตุที่ คิงเพาเวอร์ชนะการประมูลในทั้ง 3 กิจกรรม นั้นต้องบอกว่าแม้ว่าจะเสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้ ทอท.มากอย่างถล่มทลายก็ตาม แต่การนำเสนอ แผนธุรกิจ แผนการตลาด ที่คิงเพาเวอร์มานำเสนอ ก็ได้มีการประเมิน คาดการณ์ การเติบโตผู้โดยสาร ยอดขายสินค้าในทุกประเภทที่มีความโดดเด่น และชัดเจนเป็นไปได้มากๆ รวมถึงแผนตลาดที่จะรักษาฐานลูกค้าเก่าไว้ และเพิ่มกลุ่มลูกค้าใหม่