เข้าสู่ฤดูฝนเต็มรูปแบบทำให้ฝนตกกระหน่ำในหลายพื้นที่ เมื่ออากาศเปลี่ยนแปลงรวดเร็วก็เป็นธรรมดาให้เราเจ็บป่วยง่ายขึ้น เมื่อคนเจ็บป่วยเยอะๆ ก็ทำให้โรงพยาบาลได้รับผลดี จนทำให้ทุกๆ ไตรมาสที่ 3 หุ้นโรงพยาบาลจะมีผลประกอบการดีเป็นพิเศษ แต่รู้หรือเปล่าว่าหุ้นโรงพยาบาล เป็นกลุ่มหุ้นที่มีกำไรเติบโตต่อเนื่องยาวนานมากที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ฯ
บล.บัวหลวง ประเมินทิศทางกลุ่มโรงพยาบาลว่า การเติบโตยังสดใส จากอุปสงค์ทางการแพทย์มุ่งสู่ Preventive care (การป้องกันก่อนจะป่วย) และ Wellness (การดูแลสุขภาพ) ซึ่งจะเป็นโอกาสใหม่ในการเติบโตระยะยาวของผู้ประกอบการกลุ่มการแพทย์กลุ่มเป้าหมายคือ คนที่มีสุขภาพดีไม่ใช่ผู้ป่วยที่ต้องได้รับการรักษาจากการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ ซึ่งจะเป็นตลาด ใหม่ โดยโรงพยาบาลระดับบนที่มีทีมวิจัยและพัฒนาที่แข็งแกร่งได้เพิ่มการบริการไปสู่ตลาดดังกล่าว เพื่อรองรับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น เช่น Wellness 2 แห่ง ของ BDMS และ BH
จับตากฏเกณฑ์กระทบธุรกิจ
ซึ่งการให้บริการ Preventive care ดังกล่าวเป็น ธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูง มีความเสี่ยงด้านกฎระเบียบถือเป็นเรื่องปกติ โรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทยต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้านกฎระเบียบที่สำคัญ 2 ประการ โดยประการแรกคือ การกำหนดราคาจากกระทรวงพาณิชย์ที่ส่งผลกระทบต่อโรงพยาบาลเอกชนทุกแห่ง แต่ไม่มีกำหนด เพดานราคาและอัตรากำไร และประการที่สอง ได้แก่ นโยบายประกันสังคม ที่ไม่แน่นอนซึ่งส่งผลกระทบต่อโรงพยาบาลที่รับประกันสังคม โดยความสำเร็จหลักสำหรับโรงพยาบาลภายใต้นโยบายประกันสังคม คือจำนวนผู้มาใช้บริการและความเป็นเลิศทางการให้บริการ
แนวโน้มอุปทานใหม่ ตลาดเริ่มกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันที่รุนแรงจากอุปทานใหม่ของ โรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพและเขตปริมณฑล เราพบว่ามี 8 แห่ง (รวมทั้งผู้ประกอบการเดิมและรายใหม่) วางแผนที่จะเปิดให้บริการโรงพยาบาลใหม่ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ด้วยจำนวนเตียงรวมทั้งหมด ประมาณ 2,013 เตียง หรือคิดเป็นอุปทานที่เพิ่มขึ้นประมาณ 6%
จากมุมมองของผู้บริหาร สิ่งที่ท้าทายคือจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ที่จำกัด และความเสี่ยงด้านการดำเนินงานที่สูง
