“กรุงศรี” มองหุ้นปรับตัวขึ้นต่อ หลังสหรัฐยกเลิกเก็บภาษีจีนรอบใหม่ 3.25 แสนล้านดอลลาร์
>>
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ ให้มุมมองเป็นบวกคาด SET Index ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,740 – 1,745 จุด เนื่องจากได้ sentiment เชิงบวกจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน โดยสหรัฐจะไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่ 3.25 แสนล้านดอลล่าร์ (ภาษีรอบเก่ายังคงอยู่) และอนุญาตให้บริษัทในสหรัฐซื้อขายอุปกรณ์ที่ไม่มีปัญหาความมั่นคงของชาติกับ Huawei ได้ ส่วนจีนจะนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐ (มีผลทันที)
นอกจากนี้ภาวะตลาดยังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นเหนือ 59 US/Barrel หลังรัสเซียเผยว่าได้ตกลงกับซาอุดิอาระเบียที่จะขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรล/วันออกไปอีก 6 – 9 เดือน ซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงานและภาวะตลาด อย่างไรก็ตามควรระวังแรงขายระยะสั้นจากสัญญาณทางเทคนิค Overbougth ซึ่งจะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวได้
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
นอกจากนี้ภาวะตลาดยังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นเหนือ 59 US/Barrel หลังรัสเซียเผยว่าได้ตกลงกับซาอุดิอาระเบียที่จะขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรล/วันออกไปอีก 6 – 9 เดือน ซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงานและภาวะตลาด อย่างไรก็ตามควรระวังแรงขายระยะสั้นจากสัญญาณทางเทคนิค Overbougth ซึ่งจะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวได้
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
- กลุ่มพลังงาน (PTTEP, PTT, TOP, PTTGC) อานิสงส์ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นแรงยืนเหนือ 59 US/Barrel
- กลุ่มอิเล็คฯ ขนส่ง โลจิสติกส์ และมือถือที่ได้ประโยชน์จากภาวะ Trade war สหรัฐ-จีนที่ผ่อนคลาย (KCE, HANA, PSL, JWD, WICE, SYNEX, COM7)
- กลุ่มนิคมฯและรับเหมา ได้อานิสงส์ความคืบหน้ารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน รวมถึงโครงการพัฒนาท่าเรืออุตฯมาบตาพุดระยะที่ 3 (AMATA, WHA ,STEC, SEAFCO, CK)
- กลุ่ม Domestic Play (AOT, TTW, CPALL, BEM, BTS, BDMS, EA, BGRIM, TPCH , GPSC)
หุ้นแนะนำวันนี้:
- PTTEP (ปิด 135 ซื้อ/เป้า 150) ได้ Sentiment บวกราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวแรงคาดหวัง OPEC ขยายเวลาลดกำลังการผลิต ด้านปริมาณขาย PTTEP ยังมีปริมาณขายเพิ่มขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการของ Murphy Oil ของมาเลเซียหนุนปริมาณขายเพิ่มขึ้น 5% ในปีนี้และ 14% ในปีหน้า และยังมีการเข้าซื้อพาร์เท็กซ์ โฮลดิ้ง ในตะวันออกกลางช่วยหนุนการผลิตและขาย
- KKP (ปิด 69.5 ซื้อ/เป้า 72 บาท) ราคาหุ้นยัง Laggard เมื่อเทียบกับ TISCO ( 2 เดือนที่ผ่านมา KKP +5% แต่ TISCO+12%) ทั้งที่ให้ Dividend yield ใกล้เคียงกันที่ 6-7% ต่อปี ประกอบกับตัวถ่วงของ KKP ใน 1Q19 คือธุรกิจหลักทรัพย์ แต่ปัจจุบันมูลค่าการซื้อขายปรับตัวขึ้นแล้วจึงไม่น่ากังวล อีกทั้งยังมีรายได้จากงาน IB ขนาดใหญ่หลายรายการ ทำให้แนวโน้มกำไรน่าจะ Bottom ไปแล้ว