ท่ามกลางธุรกิจทีวีที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด ทั้งการแข่งขันของธุรกิจทีวีที่มีทางเลือกมายมายจากเพิ่มขึ้นของช่องทีวีดิจิตอล และการเข้ามาของคู่แข่งใหม่ที่เข้ามาแย่งตลาดคนดูทีวี ผ่านแพลตฟอร์มใหม่ ที่ทำให้เวลาออกอากาศไม่ใช่ข้อจำกัดของอีกต่อไป ทีวีหลายช่องเผชิญกับภาวะการขาดทุน และเลือกที่จะคืนใบอนุญาตทีวีดิจิตอล ปลดพนักงาน แต่ workpoint ที่สร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังขยายงานด้านใหม่ๆเปิดรับบุคลากรสวนกระแสบริษัทอื่น
อะไรทำให้ workpoint เติบโตโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง และ การปรับผังทีวีใหม่ โดยการใส่รายการยอดนิยมอย่าง 10 fight 10 เข้าไป ที่จะออกอากาศในคืนนี้เป็นเทปที่ 4 จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับ workpoint ขนาดไหน และอนาคตของหุ้น work จะเป็นอย่างไร วันนี้เราจะมีวิเคราะห์กัน
จากผู้ผลิตรายการสู่เจ้าของแพลตฟอร์มจอ LED
บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ Workpoint มีจุดเริ่มต้นจากการเป็นผู้ผลิตรายการเพื่อป้อนให้กับสถานีโทรทัศน์ โดยมีรายการที่โดดเด่นในอดีต เช่น
- ชิงร้อยชิงล้าน
- คุณพระช่วย
- คนอวดผี
- เวทีทอง
ก่อนจะเข้าร่วมประมูลทีวีดิจิตอล และได้รับใบอนุญาตในการเผยแพร่รายการในรูปแบบความคมชัด SD ส่งผลให้ workpoint นำรายการของตัวเองกลับมาออกอากาศผ่านช่อง workpoint23 ทันทีที่มีการออกอากาศช่องของตัวเอง workpoint ได้มีการออกรายการใหม่จำนวนมาก หนึ่งในนั้น คือรายการที่พลิกโฉมครั้งสำคัญของช่อง คือ the mask singer รายการร้องเพลงชื่อดัง ที่สร้างการพูดทั่วบ้านทั่วเมือง โดยในขณะที่ the mask singer ซีซั่น 1 ออกอากาศ ความนิยมของรายการผลักดันให้ ทวิตเตอร์ #themasksinger ติดเทรนด์อันดับที่ 2 ของโลก มียอดผู้ชมออนไลน์ ผ่าน live Facebook 4.6 ล้านวิว และส่งผลให้หุ้น work ทำสถิติสูงสุดใหม่ 105 บาทต่อหุ้น
10 fight 10 ปั่นเรทติ้งดัน work โดดเด่น
เมื่อ the mask singer ได้รับการตอบรับที่ดี workpoint ดันรายการให้ออกอากาศในซีซั่น 2 และ 3 อย่างต่อเนื่อง ทำให้เรทติ้งก็ไม่ได้ตอบรับเหมือนกับซีซั่นแรก ทำให้เวลาต่อมา ให้หุ้น work ปรับตัวลดลงมาถึงจุดต่ำสุดในระดับ 15 บาทต่อหุ้น workpoint จึงเลือกปรับกลยุทธ์ใหม่ ด้วยการปรับผังรายการ โดยใส่รายการมวยในช่วงเวลาพีคไทม์ อย่างรายการ 10 fight 10 เพื่อหวังปลุกเรทติ้ง
“10 FIGHT 10 Presented by GS BATTERY” เป็นรายการมวยออกอากาศทุกวันจันทร์ เวลา 20.15 น. โดยนำดาราชายที่มีชื่อเสียง 10 คนแบ่งออก 2 ทีม มาต่อยกันภายใต้กติกามวยสากล มีดาราชายชื่อดังจำนวนมากเข้ามาร่วมรายการ ทั้ง บีม ศรันยู, เป้ อารักษ์, ดีเจแมน พัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา เข้ามาสร้างสีสันภายใต้แนวคิดของรายการต่อยจริง เจ็บจริง ได้รับการตอบรับจากคนดูเป็นอย่างดีมียอดการดู facebook live ผ่านรายการสดมากกว่า 1.4 แสนคน
10 fight 10 เป็นความหวังดัน work ยืน1 อีกครั้ง
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ม (ประเทศไทย) ประเมินว่า มีมุมมองเป็นบวกเล็กน้อยจากภาพรวมธุรกิจที่ดีขึ้นตามที่ประเมินไว้ ได้แก่ การปรับผังรอบใหญ่ 5 รายการนำโดย 10 Fight 10 และกล่องของขวัญ มีกระแสตอบรับดีมาก สะท้อน rating กลับมายืนสูงกว่า 2 การปรับผังจะดำเนินต่อใน ก.ค.-ส.ค. อีก 6 และ 3 รายการใหม่ตามลำดับ ตั้งเป้าหมาย rating กลับมายืนที่ 1.00 ได้อีกครั้ง จากปัจจุบันที่ 0.94 แต่การปรับผังที่ล่าช้าไป 4 เดือน ทำให้ต้องพิจารณาเป้ารายได้ธุรกิจ TV ใหม่ (ii) ธุรกิจ Commerce ยังไปได้ดี Hello shop ยอดขายขยับเป็น 7-8 แสนบาท/วัน จาก ช่วงเริ่มต้นที่ 3-4 แสนบาท/วัน เริ่มใกล้เคียงเป้าที่ 1 ล้านบาท/วัน ทยอยเจรจาเจ้าของสินค้าเพิ่มเติม (iii) Concert & Event มีงานใหญ่ในช่วงที่เหลือของปีจะเร่งตัวในช่วง ครึ่งปีหลัง
แนวโน้มกำไรไตรมาสที่2 ดีขึ้นตามคาด
เราประเมินแนวโน้มกำไรไตรมาสที่ 2 ขยายตัวเทียบจากไตรมาสที่ 1 และกลับมาแตะหลักร้อยล้านบาทได้อีกครั้ง จากปัจจัยฤดูกาลที่คนอยู่บ้านมากขึ้น หนุน Utilization rate ขยับมาอยู่ที่ 50% เทียบกับ 46-47% ในไตรมาสที่1 แม้ไม่ใช่ High season ที่โดดเด่น เนื่องจากมีหลายเหตุการณ์พิเศษทั้งการเลือกตั้งและงานพระราชพิธีฯ รวมถึงอานิสงส์ต้นทุนที่ลดลงจากค่าใบอนุญาต และผลจากรายการใหม่ช่วงเร่ง rating ในช่วงปลายไตรมาส อย่างไรก็ดีเราคาดโมเมนตัมกำไรจะยังเติบโตเทียบไตรมาสก่อน ได้ต่อในช่วง ครึ่งปีหลัง จากค่าโฆษณาที่ทยอยปรับขึ้นตาม rating ที่ส่งสัญญาณดีขึ้นตามลำดับ
ครึ่งปีหลังกำไรเติบโตต่อเนื่อง
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) รายงานว่า การปรับผังรายการใหม่ของ WORK ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จากรายการที่ออกอากาศไปแล้วใน มิ.ย. เช่น
- กล่องของขวัญ (เรตติ้ง 1.6)
- Sweet Chef Thailand (เรตติ้ง 1.2)
- 10 Fight 10 (เรตติ้ง 2.216)
นอกเหนือจากนี้ ในวันที่ 22 มิ.ย. จะมีการเปิดตัวรายการใหม่ 1 รายการ “คู่เฟคคู่แฟน” ซึ่งเรามองว่าน่าสนใจ สำหรับรายการ 10 Fight 10 ที่ได้ออนแอร์ไปแล้ว 2 สัปดาห์ โดยวันที่ 17 มิ.ย. มีเรตติ้ง (15+) ถึง 2.217 สามารถรักษาระดับเรตติ้งได้ดี เรามองว่ารายการในสัปดาห์ที่ 2 ยังคงดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ชมผ่านเฟซบุ๊คไลฟ์และ Youtube ยังอยู่ในระดับสูง จากการดูเทปที่ 2
เรามองว่ารูปแบบรายการดูน่าสนใจ และวิธีการนำเสนอกระชับขึ้น นอกเหนือจากนี้ ในเทปต่อๆไป เรามองว่าคู่ชกยังน่าสนใจอย่างต่อเนื่อง เช่น
- บอย พิษณุ vs ซัน ประชากร
- เจ้าขุน vs แบงค์
- ฮั่น อิสริยะ vs ชินวุฒิ
สำหรับครึ่งปีหลัง ทาง WORK จะมีการเปิดตัวรายการ 10 รายการ เป็น Big format 1 รายการ ซึ่งเราเชื่อว่า จะหนุนผลประกอบการในครึ่งปีหลังให้ปรับขยายตัวโดดเด่น และยังสามารถได้ผลบวกจากเม็ดเงินโฆษณาที่ฟื้นตัว เรามองว่าจะเห็นเรตติ้งของ WORK ปรับตัวเพิ่มขึ้น เรามองว่าแนวโน้มกำไรสุทธิ ไตรมาสที่ 2 จะอ่อนตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่จะฟื้นตัวเล็กน้อยจากไตรมาสที่ 1
การกลับมาของ WORK ด้วยการดันรายการใหม่อย่าง 10 FIGHT 10 ดันให้ work กลับมาโดดเด่นบนสังเวียนทีวีดิจิตอลอีกครั้ง แต่สิ่งที่ work ต้องพิสูจน์ คือ ความสามารถในการรักษาเรทติ้งให้อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นปัจจัยสร้างการเติบโตให้กับ work ในระยะยาว ไม่เช่นนั้น ราคาหุ้นอาจซ้ำรอยฝันร้ายเหมือนในอดีตอีกครั้งก็เป็นได้
ข้อมูลจาก
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ม (ประเทศไทย)
บล.เคทีบี (ประเทศไทย)
https://bit.ly/2N0FdwL
