Intuch หุ้นบลูชิพที่ลงทุนในสตาร์ทอัพ โบรกฯ แนะนำถือรับปันผลเด่น ช่วงครึ่งปีหลัง
>>
หนึ่งในบริษัทที่ลงทุนในสตาร์ทอัพ หรือจำพวกบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีทางการเงิน (ฟินเทค) ที่เห็นผลเป็นชิ้นเป็นอันเลยก็คือ “Intuch” หรือบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) บริษัทแม่ของค่ายมือถืออย่าง AIS ไม่เพียงแค่ค่ายมือถือนี้จะมีคลื่นในมือและคนใช้บริการที่เยอะสุด เมื่อเทียบกับ TRUE และ DTAC แต่รายได้ของ AIS ยังคิดเป็น 73% ของรายได้รวม Intuch
สำหรับการลงทุนที่น่าสนใจ ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา Intuch ลงทุนในสตาร์ทอัพเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นับเฉพาะบริษัทใหญ่ๆ ที่เป็นที่รู้จักกันดี มีดังนี้
ปัจจุบันอินทัชยังลงทุนในสตาร์ทอัพรวมประมาณ 13 บริษัท โดยหนึ่งในโครงการที่น่าสนใจคือการพัฒนา “สมาร์ทซิตี้” โดยปีที่ผ่านมาลงทุนในสตาร์ทอัพเพิ่มอีกบริษัท 3 บริษัท ได้แก่
- บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด
- บริษัท ช็อคโก้ คาร์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด
- บริษัท อีคาร์ทสตูดิโอ จำกัด
นอกจากนี้ลงทุนใน ส่วนในด้าน Internet of Thing หรือ IoT อินทัชดูแลด้านนี้ให้กับนิคมอุตสาหกรรม อมตะซิตี้ ของวิกรม กรมดิษฐ์ ผ่านบริษัท อมตะ เน็ทเวอร์ค จำกัด , พลัส พร็อพเพอร์ตี้ อสังหาในเครือแสนสิริ , บุญรอดบริวเวอรี่ ของตระกูลภิรมย์ภักดี และโครงการท่อส่งก๊าซ ปตท. ล้วนแต่เป็นบริษัทใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลย ขณะที่ธุรกิจดาวเทียมก็มีการลงทุนต่อเนื่อง ทั้งในอุตสาหกรรมทางเรือ และร่วมมือกับบ.ในยุโรป เพื่อขยายโทรทัศน์ดาวเทียมในแอฟริกาด้วย
สิ่งที่ Intuch คาดหวังจากการลงทุนคือ การลดการพึ่งพิงรายได้หลักจากธุรกิจที่มาจากบริษัทลูกเพียงอย่างเดียว และต้องการหาธุรกิจสตาร์ทอัพที่ช่วยต่อยอดการให้บริการของ AIS ให้มากยิ่งขึ้นไปด้วย
ผลประกอบการพอประคองตัว แต่ปันผลครึ่งปีหลังเด่น
และถ้าดูผลประกอบการ ไตรมาสแรก บริษัทมีรายได้รวม 4,392.87 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 2,904.19 ล้านบาท และมีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 53,296.01 ล้านบาท ส่วนในด้านราคาหุ้นตั้งแต่ปีถึงปัจจุบัน (YTD) ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้น 30.37% อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า มองว่าผลประกอบการยังประคองตัวไปได้ แม้จะมีหมดเสน่ห์ในช่วงกลางปี แต่ยังให้ปันผลโดดเด่น โดยปีนี้ประเมินว่าอินทัชปันผล 4.5%
ขณะที่บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินว่า บริษัทลูกอย่าง THCOM ยังถูกกดดันจากภาวะอุตสาหกรรมดาวเทียม ที่ยังคงแย่จากความต้องการใช้งานที่ลดลง จึงประเมินว่ากำไรปกติของอินทัชปีนี้น่าจะทรงตัวที่ประมาณ 11,764 ล้านบาท แนะนำถือเพื่อรับปันผลงวดครึ่งปีหลังที่ 1.17 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield 2.1%
อย่างไรก็ตามแม้จะมีความเสี่ยงเรื่องภาพรวมอุตสาหกรรมดาวเทียมที่หดตัวในไตรมาสแรกที่ผ่านมา แต่ก็ยังช่วงชิงความได้เปรียบในแง่การเป็นบริษัทใหญ่ในอุตสาหกรรม บวกกับบริษัทลูกอย่างเอไอเอสที่ยังครองมาร์เก็ตแชร์เบอร์หนึ่งในตลาด ยังไม่นับการลงทุนในสมาร์ทซิตี้ร่วมกับสตาร์ทอัพไทย ซึ่งมีโอกาสอีกมหาศาลในอนาคต
ที่มา : รายงานประจำปีของบริษัท
