นายธนวรรธน์ ผลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน มิ.ย. 2562 จากการสำรวจประชาชนทั่วประเทศจำนวน 2,246 คน พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 76.4 จาก 77.7 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ต่ำสุดในรอบ 21 เดือน
ทั้งนี้มีปัจจัยสำคัญมาจากจากความกังวลสถานการณ์การเมืองในประเทศ โดยเฉพาะความล่าสช้าในการจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจไทยยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวเท่าที่ควร ส่งผลให้กำลังซื้อของประชาชนชะลอตัว และสถานการณ์ไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกเนื่องจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งปัจจัยค่าเงินบาทที่แข็งค่า มีผลกระทบต่อการส่งออกของไทยและการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตามคงต้องจับตาช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ทิศทางเศรษฐกิจจะมีการขยายตัวได้แค่ไหน โดยเฉพาะความคาดหวังจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ ที่มีกรอบวงเงินงบประมาณอยู่ 5 หมื่น ถึง 1 แสนล้านบาท ซึ่งหากได้ผลจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจ(จีดีพี) ขยายตัวได้ 0.5-0.7% โดยหอการค้าไทยยังไม่ปรับประมาณการตัวเลขจีดีพีในตอนนี้โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 3.3-3.8% แต่จะมีการพิจารณาสถานการรณ์อีกครั้งในเดือนส.ค.
“ต้องลุ้นในเดือนก.ค.นี้ว่าทีมเศรษฐกิจของรัฐบลใหม่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแค่ไหน ซึ่งคาดหวังว่าจะดีขึ้น ในช่วงครึ่งหลังของปี ทั้งจากเม็ดเงินงบประมาณที่กันไว้ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ และการผ่อนคลายของสงครามการค้า ทั้งนี้มองว่าควรนำนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมาสนับสนุนนโยบายด้านการคลัง โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% และจะช่วยให้สถานการณ์เงินบาทที่แข็งค่าดีขึ้นมาได้ “นายธนวรรธน์ กล่าว