เทรด PRM คึกคักดันราคาหุ้น 1 เดือนบวกเกิน 30% นักวิเคราะห์ประเมินธุรกิจ Turnaround
>>
เข้ามาเก็งกำไรกันอย่างคึกคัก สำหรับในหุ้นของ บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM ที่ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นจากต้นเดือน มิ.ย. จนถึงวันที่ 8 ก.ค. มาอยู่ที่ 8.10 บาท หรือเพิ่มขึ้น 30.65 % โดยการเข้ามาเก็งกำไรในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา เกิดจากความคาดหวังว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะฟื้นตัวอย่างชัดเจนในปี 2562
ก่อนหน้านี้ นายชาญวิทย์ อนัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM ได้ประกาศความมั่นใจว่า ผลงานปีนี้จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง วางเป้าหมายจะมีรายได้เติบโตจากปีก่อน 10 -15% เป็นไปตามแผนที่จะเข้าสู่ “Growth Mode” เต็มตัวในทุกกลุ่มธุรกิจของบริษัทจะเติบโตได้ตามเป้าหมาย
โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งภายในประเทศและกลุ่มเรือ FSU ที่มีการเติบโตที่ดี หลังจากในไตรมาส 2/62 บริษัทได้มีเรือใหม่ขนาด 3,000 DTW จำนวน 2 ลำ เริ่มให้บริการสร้างรายได้เชิงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้บริษัทฯ จะมีเรือขนส่งปิโตรเลียมในประเทศ ณ ไตรมาสที่ 3 ทั้งสิ้นจำนวน 32 ลำ ซึ่งจะเข้ามาช่วยสนับสนุนการเติบโตต่อจากนี้
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนเพิ่มสัดส่วนการเข้าถือหุ้นในบริษัท บิ๊กซี จำกัด (Big Sea) จากเดิมที่ถืออยู่ 70% เพิ่มเป็น 80% และจะสามารถรับรู้รายได้ทันที ซึ่งจะเข้ามาช่วยผลักดันการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งภายในประเทศให้แข็งแกร่งมากขึ้นในอีกทางหนึ่ง
ส่วนธุรกิจเรือขนส่งและกักเก็บฯ (FSU) จะเติบโตได้ดี หลังจาก PRM ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะของอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มดีขึ้น จากปัจจัยกฎข้อบังคับขององค์กรการเดินเรือระหว่างประเทศ (IMO2020) ส่งผลให้มีความต้องการใช้เรือ FSU เพื่อกักเก็บและผสมน้ำมัน ให้ได้น้ำมันเตาที่มีค่ากำมะถันต่ำเพิ่มมากขึ้น โดย PRM ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับโอกาสดังกล่าว ด้วยการเพิ่มเรือ FSU ตั้งแต่ช่วงต้นไตรมาส 2/62 จากเดิมที่มีอยู่จำนวน 5 ลำ เป็น 7 ลำ ซึ่งปัจจุบันกลุ่มเรือ FSU มีอัตราการใช้บริการโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเต็ม 100%
PRM ยังเติบโตต่อเนื่อง
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) รายงานว่า ในช่วงเช้าของวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา บล.เมย์แบงก์ได้ อัพเดทแนวโน้มผลประกอบการไตรมาสที่ 2 กับผู้บริหาร ภาพรวมดีเหมือนที่เคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้ คาดเติบโต 200-220 ล้านบาท และผลการดำเนินงานของบริษัทจะโดดเด่นในช่วงครึ่งปีหลัง จากการรับรู้รายได้ FSU 7 ลำเต็มไตรมาส พร้อมให้ราคาที่เหมาะสมเชิงพื้นฐานสูงถึง 12.40 บาทต่อหุ้น
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) รายงานว่า ปีแห่งการ Turnaround มองโดยมองว่า PRM เป็นหุ้นน่าสนใจจากแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2019 - 2020 กลับมาเติบโตโดดเด่นขยายตัว 28% และขยายตัว 18% ตามลำดับ โดยปีนี้มีโอกาสเติบโตทุกไตรมาสจากทุกธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจเรือ FSU จะเติบโตได้โดดเด่นสุด จากความต้องการใช้เรือมากขึ้น โดยได้ปัจจัยหนุนจากกฎ IMO และมีการรับเรือใหม่เพิ่ม 2 ลำ ซึ่งได้ทำสัญญาเช่าเรือล่วงหน้าแล้ว และธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันยังคงเติบโตสดใส โดยเรือขนส่งน้ำมันในประเทศจะมีอัตราการใช้เรือที่สูงต่อเนื่อง และยังมีการรับเรือใหม่เพิ่ม รวมทั้งจะได้ผลบวกจากการเข้าซื้อ Big Sea สัดส่วน 70% ตั้งแต่กลางปีก่อน ทำให้ปีนี้รับผลบวกเต็มที่ ส่วนธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันระหว่างประเทศ จะกลับมา Turnaround ในปีนี้ จากอัตราค่าระวางเรือในตลาดโลกที่สูงขึ้น นอกจากนั้น ในปี 2020 กำไรสุทธิยังมีโอกาสเพิ่มได้อีกหากมีการขยายกองเรือเพิ่ม
ธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันยังคงสดใสต่อเนื่องในปีนี้
ธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันยังคงเติบโตได้ดีต่อเนื่องในปีนี้ ทั้งเรือขนส่งน้ำมันในประเทศ (คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 44%) ที่คาดว่ารายได้จะเติบโต 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากรับรู้ผลบวกเต็มที่จากการเข้าซื้อธุรกิจ Big Sea สัดส่วน 70% ตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา และในช่วงกลางปี 2019 จะเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเป็น 80% นอกจากนั้น ในปีนี้จะมีการรับเรือใหม่เพิ่ม 6 ลำ หักที่จะขายเรือเก่าในปีนี้ 3 ลำ จะทำให้ ณ สิ้นปีมีเรือจำนวน 29 ลำ ส่วนธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันระหว่างประเทศ (คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 8%) จะกลับมา Turnaround ในปีนี้ จากอัตราค่าระวางเรือขนส่งน้ำมัน Aframax ในตลาดโลกที่สูงขึ้น
ธุรกิจ Offshore อัตราการใช้เรือยังคงสูงต่อเนื่อง
สำหรับธุรกิจ Offshore (มีสัดส่วนรายได้ 9%) จะยังคงมีอัตรการใช้เรือที่สูงต่อเนื่องในปีนี้ โดยเฉพาะเรือ FSO (เรือสนับสนุนแท่งขุดเจาะกลางทะเล) ปัจจุบันมี 2 ลำ ในปีนี้จะมีอัตราการใช้กำลังการผลิต 100% ตลอดทั้งปีต่อเนื่องจากปีก่อน และเรือ AWB (เรือให้บริการที่พักกลางทะเล) มีจำนวน 1 ลำ จะมีอัตรการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากเริ่มกลับเข้ารับงานใหม่แล้ว โดยให้ราคาที่เหมาะสมอยู่ที่ 8.50 บาทต่อหุ้น