“บลจ.กสิกรไทย” มองปี19 เศรษฐกิจโลกอยู่ช่วงปลายวงจรขาขึ้น แนะกลยุทธ์ลงทุนแบบ ‘4D’

>>

บลจ.กสิกรไทยมองปี19 เศรษฐกิจโลกอยู่ช่วงปลายวงจรขาขึ้น แนะกลยุทธ์ลงทุนแบบ ‘4D’ เอาชนะความผันผวนทุกสภาวะตลาด พร้อมเดินหน้ารุกช่องทางลงทุนดิจิตอลต่อเนื่องตั้งเป้าผู้ลงทุนผ่านดิจิตอลปีนี้ (Digital-based Users) เพิ่มขึ้นอีก 26% ปลื้มปี18 ยังรั้งอันดับ1 ‘กองทุนส่วนบุคคล-กองทุนสำรองเลี้ยงชีพต่อเนื่อง ตั้งเป้า AUM ปี19 โตเพิ่ม 12%

นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บลจ.กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยถึงมุมมองการลงทุนในปี 2019 ว่าเศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงปลายวัฐจักรของเศรษฐกิจขาขึ้น (Late cycle) โดยภาพรวมคาดว่าจะมีการขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงและไม่สอดคล้องกันในแต่ละประเทศ ส่งผลให้ภาพรวมตลาดในปีนี้ ยังคงเป็นปีที่มีความผันผวนสูงและอาจส่งผลให้ผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุนลดน้อยลง โดยปัจจัยเสี่ยงมาจากหลายประการ เช่น การที่สภาพคล่องในตลาดโลกลดลงอย่างต่อเนื่อง จังหวะการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) รวมถึงสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่ยังมีความไม่แน่นอน

เป้าหมายและกลยุทธ์การลงทุนของบริษัทในปีนี้ จึงให้ความสำคัญและมุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพการลงทุน  โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุนและบริการเพื่อให้สามารถตอบโจทย์กับสภาวะตลาดที่มีความผันผวน โดยเสนอแนวคิดการลงทุนแบบ 4D ซึ่งเป็นกลยุทธ์การลงทุนที่บริษัทแนะนำให้กับลูกค้าในปีนี้ ได้แก่

  1. การเน้นกระจายความเสี่ยงโดยการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ (Diversification) 
  2. การลงทุนในสินทรัพย์ที่สามารถสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอแม้ในสภาวะตลาดที่ผันผวน (Defensive)
  3. การลงทุนและถือครองสินทรัพย์ในระยะเวลาที่เหมาะสม (Duration) 
  4. การลงทุนโดยยึดหลักความสม่ำเสมอ มีวินัย (Discipline)

ซึ่งทั้ง 4 กลยุทธ์การลงทุนนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะเอาชนะความผันผวนของตลาดในปีนี้และเพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในระยะยาว

นายวศิน ยังกล่าวอีกว่า บริษัทยังคงตั้งเป้าหมายของการเป็นผู้นำในธุรกิจกองทุนด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุน รวมถึงช่องทางการให้บริการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพัฒนาคุณสมบัติใหม่ๆ ของแอปพลิเคชัน K-My Funds และ K-My PVD เพื่อให้สามารถตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น และการเน้นรักษาฐานลูกค้าเดิม โดยนำเอานวัตกรรมต่างๆ ซึ่งเป็นเครื่องวิเคราะห์ข้อมูลการลงทุนมาใช้ในการนำเสนอพอร์ตลงทุนที่มีประสิทธิภาพ เหมาะกับระดับความเสี่ยงและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้ามากที่สุด รวมไปถึงการให้คำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงเป็นรายบุคคลกับลูกค้าผ่าน  App K-My Funds  นอกจากนี้บริษัทยังมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มใหม่ๆ โดยเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงการลงทุนผ่านช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะช่องทางดิจิตอล ซึ่งถ้าระบบการยืนยันตัวตนผ่านดิจิตอล (National Digital ID) และ e-KYC เปิดให้ใช้อย่างเป็นทางการ ก็จะสามารถเพิ่มฐานลูกค้าได้อีกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ความร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยและตัวแทนการขายอื่นๆ ยังช่วยสร้างระบบเครือข่ายการขายผลิตภัณฑ์กองทุน ของบริษัทฯ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย

บริษัทยังคงมีจำนวนลูกค้ากองทุนรวมที่ลงทุนผ่านช่องทางดิจิตอลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สิ้นปี 2018 มีลูกค้ากองทุนรวมที่ลงทุนผ่านช่องทางดิจิตอล (Digital-based Users) ประมาณ 257,000 ราย คิดเป็นสัดส่วน 57% จากจำนวนลูกค้ากองทุนรวมทั้งหมด โดยเพิ่มขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่วนเป้าหมายในปี 2019 นี้ บริษัทตั้งเป้าหมายฐานลูกค้าที่ใช้บริการผ่านช่องทางดิจิตอล (Digital-based Users) เพิ่มขึ้นเป็น 325,000 ราย จากจำนวนลูกค้ากองทุนรวมทั้งหมด หรือเพิ่มขึ้นอีก 26%

วศิน วณิชย์วรนันต์ )

นายสุรเดช เกียรติธนากร กรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย จำกัด กล่าวถึงการเติบโตของบริษัทในช่วงที่ผ่านมาเพิ่มเติมว่า บริษัทยังคงครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมกองทุนรวมและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพโดยกองทุนส่วนบุคคลมีตัวเลขเติบโตสูงสุดที่ 22.1% ขณะที่กองทุนสำรองเลี้ยงชีพเติบโต 16.1% ทำให้สิ้นปี 2018 บริษัทมีสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหาร (AUM) รวมอยู่ที่ 1.32 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจกองทุนรวม 9.77 แสนล้านบาท  กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 2.01 แสนล้านบาท และกองทุนส่วนบุคคล 1.43 แสนล้านบาท โดยคิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดจำแนกตามธุรกิจอยู่ที่ 19.9%, 17.9% และ14.3% ตามลำดับ (ข้อมูลจาก AIMC 28 ..2018)

ปี2019 นี้ บริษัทตั้งเป้า AUM เติบโตเพิ่มขึ้นอีก 12% โดยการเติบโตในส่วนของธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่นนั้น เป็นการเติบโตจากการที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการกับบริษัทมากขึ้นไม่ใช่การเติบโตเพราะตลาดพาไปแต่ประการใด เพราะเรามีทีมงานที่พร้อมจะดูแลลูกค้า มีการบริหารจัดการและการดูแลลูกค้าได้ดี ทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจกับเรา รวมถึงผลการดำเนินงานที่ดีที่ส่งมอบให้กับลูกค้าด้วยเช่นกัน ปัจจุบันลูกค้าบริษัทเองมีการเข้ามาใช้บริการกองทุนส่วนบุคคลเพิ่มมากขึ้น บางแห่งอาจจะบริหารเงินเองแต่ก็อยากจะให้ลองแบ่งบางส่วนมาลองลงทุนกับกองทุนส่วนบุคคลของบริษัทดูด้วยเช่นกัน และภายใต้นโยบาย ‘One Team’ ของธนาคารกสิกรไทยจะช่วยให้เราสามารถเข้าและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

( สุรเดช เกียรติธนากร )

ศึกษาข้อมูลธุรกิจเพิ่มเติมได้ที่ https://www.kasikornasset.com