เร่งเมกะโปรเจกต์6.5หมื่นล

>> คมนาคม เร่งเมกะโปรเจกต์ทางด่วนพ่วงรถไฟฟ้ามูลค่า 6.5 หมื่นล้าน หลัง "สมคิด" สั่งเดินหน้านำเงิน TFF ทำทางด่วน

คมนาคม เร่งเมกะโปรเจกต์ทางด่วนพ่วงรถไฟฟ้ามูลค่า 6.5 หมื่นล้าน หลัง "สมคิด" สั่งเดินหน้านำเงิน TFF ทำทางด่วน

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลช่วงแคราย-ลำสาลี ระยะทาง 22 กิโลเมตร วงเงิน 5 หมื่นล้านบาทนั้น ขณะนี้ ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) แล้ว โดยให้ก่อสร้างและเปิดประมูลไปพร้อมกับโครงการทางด่วนสายเหนือตอน N2 ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

สำหรับแผนเดิมที่วางไว้ว่าจะก่อสร้างได้ภายในปีนี้นั้น คาดว่าในปี 2562 คงเห็นความชัดเจนแค่การส่งมอบโครงการสาย สีน้ำตาลให้กับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)ศึกษาแนวทางการลงทุนและเปิดให้เอกชนร่วมทุน ควบคู่ไปกับการ เตรียมพื้นที่และออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน (พ.ร.ฎ.) เช่นเดียวกับโครงการรถไฟฟ้ารางเบา (แทรม) จ.ภูเก็ต เชียงใหม่ และนครราชสีมา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 6 เดือน

แหล่งข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ระบุว่า ส่วนโครงการทางด่วนสายเหนือตอน N2 วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างสรุปแผนลงทุนเพิ่มเติม คือทางด่วนทดแทน N1 วงเงิน 5,000-6,000 ล้านบาท เพื่อไปเชื่อมต่อกับโครงข่ายทางด่วนตะวันตกคือทางด่วนศรีรัช-วงแหวน ในการแก้ปัญหารถติดฝั่งกรุงเทพฯ ตะวันออก-ตะวันตกตามนโยบายรัฐบาล คาดว่าจะเสนอ ครม.ได้ภาย 1-2 เดือนนี้

"การลงทุนดังกล่าวอาจต้องทำการกู้เพิ่มเติม เพราะเงินจากกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ (TFF) เต็มเพดานแล้ว ส่วนจะพิจารณาระดมทุนเพิ่มหรือไม่ ต้องมีการหารือต่อไป อย่างไรก็ตาม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ กทพ.เร่งนำเงิน TFF ที่มีอยู่ 4.5 หมื่นล้านบาท มาใช้เดินหน้าโครงการทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท ขณะนี้เตรียมเปิดประมูลพร้อมได้ตัวเอกชนภายในสามเดือน ส่วนโครงการทางด่วนสายเหนือตอน N2 ต้องรอความชัดเจนของแผนรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลเพราะต้องก่อสร้างไปพร้อมกัน" แหล่งข่าวระบุ

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า การปรับโครงสร้างค่าโดยสารรถสาธารณะ ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดเตรียมและเสนอข้อมูลจะมีความชัดเจนในวันที่ 22 เม.ย.นี้เช่นเดียวกับการปรับค่าโดยสารรถแท็กซี่ที่จะเห็นความชัดเจนในเร็วๆ นี้ แต่ยืนยันว่าแม้จะมีการหาเสียงเลือกตั้งและการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล จะไม่กระทบต่อขั้นตอนการปรับโครงสร้างค่าโดยสารสาธารณะทั้งระบบ ยังสามารถเสนอเรื่องและพิจารณาการอนุมัติปรับราคาได้ต่อไป แม้เป็นช่วงสุญญากาศทางการเมืองก็ตาม