“บลจ.ทิสโก้”...ปลื้มผลงานทริกเกอร์ฟันด์ หลัง ‘กอง 5M#4’ ถึงเป้าใน 1 เดือน 17 วัน แนะจับตาความเสี่ยงเรื่องการเมือง กำไรบริษัทจดทะเบียนอาจลดลง ผลกระทบสงครามการค้า และค่าเงินบาทแข็งค่า

>> นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด และที่ปรึกษาการลงทุน บลจ.ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า จากความเชี่ยวชาญในการจับจังหวะการลงทุนของบริษัท ทำให้ล่าสุดสามารถบริหาร ‘กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 5M#4 (TEQT5M4)’  ถึงเป้าหมายในวันที่ 25 ก.พ. 2019 มีมูลค่า NAV เท่ากับ 10.5247 บาทต่อหน่วย ในระยะเวลาเพียง 1 เดือน 17 วัน นับจากวันที่ 9 ม.ค. 2019

นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด และที่ปรึกษาการลงทุน บลจ.ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า จากความเชี่ยวชาญในการจับจังหวะการลงทุนของบริษัท ทำให้ล่าสุดสามารถบริหาร ‘กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 5M#4 (TEQT5M4)’  ถึงเป้าหมายในวันที่ 25 ก.พ. 2019 มีมูลค่า NAV เท่ากับ 10.5247 บาทต่อหน่วย ในระยะเวลาเพียง 1 เดือน 17 วัน นับจากวันที่ 9 ม.ค. 2019  ซึ่งเป็นวันจัดตั้งกองทุน โดยถือเป็นกองทุนที่ถึงเป้าหมายเป็นกองทุนแรกของปีนี้ และเป็นทริกเกอร์ฟันด์ลำดับที่ 100 ที่บริษัทสามารถบริหารให้ถึงเป้าหมาย จากทริกเกอร์ฟันด์หุ้นไทยและหุ้นต่างประเทศที่ออกมาทั้งหมด 129 กองทุน

“ดัชนีหุ้นระหว่างวันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา ได้ปรับตัวขึ้นแรงรับข่าวสหรัฐเลื่อนเส้นตายขึ้นภาษีจีนออกไปจากวันที่ 1 มี.ค. นี้ แต่ยังต้องจับตามองว่าการเลือกตั้งในประเทศที่จะเกิดขึ้นในเดือนมี.ค.จะเป็นอย่างไร รัฐบาลผสมจะประกอบไปด้วยพรรคใดบ้างและใครจะได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี และนโยบายรัฐบาลใหม่จะเป็นอย่างไร จะมีความต่อเนื่องหรือไม่ สำหรับปัจจัยบวกที่จะหนุนหุ้นไทยต่อไป คือ ข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนคาดว่าจะมีบทสรุปในไม่ช้า ส่วนปัจจัยลบระยะสั้นน่าจะเป็นเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจและผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่มีแนวโน้มอาจจะอ่อนตัวลง เนื่องจากผลของสงครามการค้าและค่าเงินบาทที่แข็งค่า”

นายสาห์รัช ยังกล่าวอีกว่า ปีนี้หุ้นยังเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจและคาดว่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีเพราะตลาดหุ้นได้ปรับลงไปมากแล้วในปีที่ผ่านมา ขณะที่สภาวะเศรษฐกิจโดยภาพรวมแม้ว่าจะอ่อนตัวลง แต่ก็ยังถือว่าเติบโตได้ในระดับที่น่าพอใจ ตลาดหุ้นที่น่าจับตามองในปีนี้ คือ ฝั่งตลาดเกิดใหม่โดยเฉพาะทางเอเชียรวมถึงญี่ปุ่น หลังจากแนวโน้มดอกเบี้ยของสหรัฐเริ่มทรงตัว ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงผ่อนคลายนโยบายการเงิน เช่น การดำเนินมาตรการ QE เข้าซื้อทั้งพันธบัตร และหุ้นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ค่าเงินทางฝั่งประเทศตลาดเกิดใหม่เริ่มแข็งค่าสะท้อนการไหลกลับของเงินลงทุน ซึ่งตลาดหุ้นไทยก็คาดว่าจะได้รับอานิสงส์นี้ และให้ผลตอบแทนที่ดีในปีนี้เช่นเดียวกัน
( สาห์รัช ชัฎสุวรรณ )

“สำหรับหน่วยลงทุน TEQT5M4 ได้สับเปลี่ยนไปยัง ‘กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรระยะสั้น (TISCOSTF)’ โดยอัตโนมัติตามเงื่อนไขการเลิกกองทุนเรียบร้อยแล้ว”