“บลจ.กรุงไทย”...ส่ง ‘3 กองตราสารหนี้ต่างประเทศ’ ขาย 27 ก.พ. – 5 มี.ค. นี้ ผลตอบแทนตามช่วงอายุ 1.65 - 2.10%
>> นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่าย 3 กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำและเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนตามที่ประมาณการ ได้แก่ ‘กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 224 (KTFF224)’ อายุ 3 เดือน, ‘กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 228(KTFF228)’ อายุ 6 เดือน และ ‘กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 222 (KTFF222)’ อายุ 1 ปี เสนอขายตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ. – 5 มี.ค. 19 นี้
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่าย 3 กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำและเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนตามที่ประมาณการ ได้แก่
- ‘กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 224 (KTFF224)’ อายุ 3 เดือน
- ‘กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 228(KTFF228)’ อายุ 6 เดือน
- 'กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 222 (KTFF222)’ อายุ 1 ปี
( ชวินดา หาญรัตนกูล )
โดย ‘กอง KTFF224’ อายุ 3 เดือน และ ‘กอง KTFF228’ อายุ 6 เดือน เน้นลงทุนในเงินฝากประจำ Agricultural Bank China, Bank of China, China Construction Bank Asia, AL Khalu Commercial Bank, AL Ahli Bank และ Commercial Bank PQSC โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 1.65% ต่อปี และ1.80% ต่อปี ตามลำดับ
ส่วน ‘กอง KTFF222’ อายุ 1 ปี จะเน้นลงทุนในเงินฝากประจำ Bank of China, AL Ahli Bank, AL Khalij Commercial Bank, Commercial Bank PQSC บัตรเงินฝาก China Merchants Bank และ MTN ของ Emirates NBD PJSC และ Mashreq Bank ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.10% ต่อปี
“สำหรับอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศ นักลงทุนต่างชาติ ขายตราสารหนี้ระยะกลาง และกลับมาซื้อตราสารอายุยาวกว่า 10 ปี หลังจากการส่งออกในเดือนม.ค. ออกมาต่ำกว่าคาด ( -5.65% YoY ) และทำให้ขาดดุลการค้ามากที่สุดตั้งแต่ปี 2013 โดยตลาดตอบรับการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือ 13 ปี (LB326A ) และพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย รุ่นอายุ 3 ปี (BOT222A) ค่อนข้างดี โดยมี BCR 2.56 เท่า 4.45 เท่า ตามลำดับ โดยล่าสุดอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลง 1 bps. มาอยู่ที่ 1.79% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 bps. มาอยู่ที่ 2.20% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3 bps. มาอยู่ที่ 2.52% ต่อปี”
ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรับบาลสหรัฐมีการปรับตัวผันผวน โดยในช่วงกลางสัปดาห์อัตราผลตอบแทนปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบทุกช่วงอายุตามกระแส นักลงทุนหันเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น จากการขานรับผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนมีความคืบหน้ารวมถึงการยืดเวลาการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนออกไป โดยอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลง 4 bps. มาอยู่ที่ 2.48% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง 2 bps. มาอยู่ที่ 2.47% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง 1 bps.มาอยู่ที่ 2.65% ต่อปี
