จับตาประชุมสองสภา สู้เศรษฐกิจจีนโตต่ำสุดในรอบ28ปี

>>

จีนกำลังเจอกับความท้าทายทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี หลังจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของปีที่แล้วเป็นอัตราต่ำที่สุดในรอบ 28 ปี ส่งผลให้ทุกฝ่ายต่างจับตามองการส่งสัญญาณและการเปิดแผนครั้งใหญ่ในการประชุมสองสภาคือ การประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ชุดที่ 13 ครั้งที่ 2 เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. และการประชุมสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งชาติ (CPPCC) ชุดที่ 13 ครั้งที่ 2 เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.

เหตุการณ์ที่น่าจับตาที่สุดคือ ในการเปิดประชุมสภาประชาชนพรุ่งนี้ นายกรัฐมนตรี หลี่เค่อเฉียง จะเปิดรายงานแผนเศรษฐกิจจีน ซึ่งจะมีการกำหนดเป้าหมายเศรษฐกิจ การขาดดุลงบประมาณ และมาตรการกระตุ้นต่างๆ โดยการประชุมสองสภามีประเด็นหลักที่น่าจับตาดังนี้

  • เป้าหมายการขยายตัวจีดีพี 
  • เป้าหมายการขาดดุลงบประมาณ 
  • แผนปรับลดอัตราภาษี 
  • มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 
  • ไฟเขียวรัฐบาลท้องถิ่นออกบอนด์ 
  • แก้กฎหมายลงทุนต่างชาติ

 

หั่นเป้าจีดีพี-เปิดแผนกระตุ้น

รอยเตอร์สรายงานอ้างแหล่งข่าวว่า จีนอาจกำหนดเป้าหมายการขยายตัวของจีดีพีในปีนี้ไว้ที่ 6.0-6.5% ลดลงมาจาก 6.5% ในปี 2018

เหยาเว่ย นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคาร โซซิเอเต้ เจเนราล กล่าวว่า มีสัญญาณที่บ่งบอกว่าปักกิ่งจะยอมรับการขยายตัวที่ช้าลงได้ ซึ่งสำคัญต่อความท้าทายในการปรับสมดุลระหว่างการขยายตัวและความยั่งยืนในระยะยาว

ด้าน เดวิด เลอวินเกอร์ อดีตผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจจีนของกระทรวงการคลังสหรัฐ กล่าวว่า การยอมรับเป้าหมายการขยายตัวจีดีพีที่ช้าลงสะท้อนให้เห็นว่าจีนกำลังเผชิญแรงต้านหลายด้าน

ทั้งนี้ รอยเตอร์สระบุว่า จีนอาจกำหนดการขาดดุลงบประมาณต่อจีดีพีเกินอัตรา 2.6% ของปีที่แล้ว หมายความว่ารายได้จากการจัดเก็บภาษีจะลดลง และมียอดใช้จ่ายของรัฐบาลมากขึ้น แต่จะไม่ให้เกิน 3% โดยคาดการณ์ว่าการลดภาษีในปีนี้จะมากกว่าวงเงิน 1.3 ล้านล้านหยวน (ราว 6.15 ล้านล้านบาท) ของปีที่แล้ว

ขณะที่ไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล แคปปิตอล คอร์ป ธนาคารเพื่อการลงทุนของจีน คาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดภาษีมากขึ้น รวมถึงการปรับลดภาษีมูลค่าเพิ่ม 2% และปรับลดภาษีนิติบุคคล 2% และคาดว่าจะอนุมัติให้รัฐบาลท้องถิ่นออกตราสารหนี้พิเศษนอกงบดุลรวมเป็นวงเงินประมาณ 2 ล้านล้านหยวน (ราว 9.46 ล้านล้านบาท) สำหรับโครงการระบบโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้นจากวงเงิน 1.35 ล้านล้านหยวน (ราว 6.38 ล้านล้านบาท) ของปีที่แล้ว

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลจีนหลายคนส่งสัญญาณช่วงก่อนหน้านี้ว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจรอบนี้จะเป็นไปอย่างระมัดระวังและรอบคอบมากขึ้น ต่างกับการกระตุ้นล็อตใหญ่เหมือนในอดีต

แก้กฎลงทุนต่างชาติ

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า ร่างกฎหมายการลงทุนต่างชาติฉบับใหม่จะเข้าสู่สภา NPC และจะมีการลงมติในที่ประชุม ซึ่งคาดว่าจะผ่านและบังคับใช้แทนกฎหมายของเดิม 3 ฉบับ ได้แก่ กฎหมายการตั้งกิจการร่วมค้าของเอกชนจีนและต่างชาติ กิจการร่วมค้าไม่ถือหุ้นระหว่างกัน และกิจการที่เป็นของต่างชาติทั้งหมด

ทั้งนี้ กฎหมายการลงทุนฉบับใหม่จะห้ามการบีบบังคับให้เอกชนต่างชาติต้องถ่ายโอนเทคโนโลยีเพื่อแลกกับการเข้าถึงตลาดจีน และห้ามรัฐบาลท้องถิ่นเข้าแทรกแซงการทำธุรกิจของเอกชนต่างประเทศด้วย นับว่าเป็นความคืบหน้าที่สำคัญของหนึ่งในประเด็นขัดแย้งหลักในสงครามการค้ากับสหรัฐ

หวังจุ้น หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารจงยุน กล่าวว่า สงครามการค้าสร้างปัญหาหลายด้านภายในจีน เช่น วิธีการรับมือกับกฎระเบียบสากล การรับมือเรื่องความสัมพันธ์กับสหรัฐ และการปรับการแข่งขันให้สู่ภาวะปกติ

ส่งเสริม 5จี-แผนอื่นๆ

ภายในการประชุมสองสภาปีนี้ยังคาดว่าจีนจะเปิดแผนสนับสนุนการสร้าง “เครือข่าย 5จี” ทั่วประเทศ แผนหนุนเทคโนโลยีใหม่ เช่น เทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ และมาตรการส่งเสริมภาคการผลิตของจีนไปสู่การผลิตขั้นสูง

ขณะที่ “การจ้างงาน” ยังเป็นเป้าหมายอันดับแรกใน 6 ประเด็นที่จีนประกาศว่าจะพยายามรักษาเสถียรภาพในปี 2019 เช่นเดียวกับ “การแก้จน” ที่เป็น 1 ใน 3 ศึกใหญ่ของรัฐบาล และคาดว่าจีนจะเร่งความพยายามเพื่อบรรลุเป้าหมายให้ประชาชนตามพื้นที่ชนบททั้งหมดก้าวพ้นเส้นความยากจนภายในปี 2020