ปธ. FED ให้สัญญาณการยืดระยะเวลาการพิจารณาของธนาคารกลางสหรัฐออกไปเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่อ่อนลงต่อเนื่อง
>>
นาย เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐกล่าวว่าอัตราดอกเบี้ยอาจจะ“ คงอยู่ต่อไปอีกระยะหนึ่ง” เนื่องจากความเสี่ยงทั่วโลกที่มีต่อเศรษฐกิจและเงินเฟ้อยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
“เราไม่เห็นข้อมูลที่เข้ามาแนะนำว่าเราควรเลือกทำไปในทิศทางใด จากข้อมูลเหล่านั้นยังบอกว่าเราควรอดทนรอและให้สถานการณ์ชัดเจนขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป”เขากล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันพุธหลังจากที่ประชุมได้ลดคาดการณ์การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยที่คาดการณ์ไว้ในปีนี้เป็นศูนย์จากที่คาดว่าจะขึ้นสองครั้ง “อาจต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งก่อนที่แนวโน้มการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อจะยืนยันอย่างชัดเจนสำหรับการเปลี่ยนแปลงนโยบาย”
ที่ประชุมได้ตัดสินใจชะลอการเบิกถอนพันธบัตรของธนาคารกลางสหรัฐฯที่เริ่มในเดือนพฤษภาคมและสิ้นสุดในเดือนกันยายนเมื่อรวมกันแล้วการดำเนินการของเฟดจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2019 เป็นการเปลี่ยนนโยบายจากตึงตัวและเข้าสู่จุดยืนที่ระมัดระวังเป็นการส่งสัญญาณที่บ่งชี้ว่าผู้กำหนดนโยบายรับรู้ความเสี่ยงต่อมุมมองของพวกเขาอย่างจริงจังในขณะที่เศรษฐกิจในประเทศกำลังชะงัก
ตลาดการเงินยืนยันถึงการตีความในการผ่อนคลายนโยบายของเฟดที่จะยืดยาวออกไปโดย Trader มองความน่าจะเป็นของการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้เกือบหนึ่งในสอง ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งปีในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวจากการขาดทุนประจำวันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม
การตัดสินใจเป็นเอกฉันท์โดยคงเป้าหมายของอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.25 - 2.5% สัญญาณของเฟดสื่อว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยมากกว่ากการจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้ง ตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ในการสำรวจของ Bloomberg
นายพาเเวล ยังเตือนเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำในระหว่างการแถลงข่าวหลังการประชุมเรียกร้องให้เกิดแรงกดดันด้านราคาที่อ่อนแอทั่วโลก“ หนึ่งในความท้าทายที่สำคัญในยุคของเรา” เขาชี้ให้เห็นว่าความพยายามจะทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นควรดำเนินการผ่านธนาคารกลางด้วยความระมัดระวัง
“ ผมไม่รู้สึกว่าเราจะเข้าถึงอัตราเงินเฟ้อในระดับ 2 เปอร์เซ็นต์ของเราอย่างสมดุล” เขากล่าว“ นั่นทำให้เรามีความสามารถที่จะอดทนและไม่เคลื่อนไหวจนกว่าเราจะเห็นว่าเป้าหมายของเราบรรลุเป้าหมาย”
ในแถลงการณ์วันพุธ เฟด กล่าวอีกว่าจะเริ่มชะลอการหดตัวของงบดุลในเดือนพฤษภาคมลดการซื้อคืนจากการไถ่ถอนหลักทรัพย์ธนารักษ์รายเดือนจากปัจจุบันที่ 30 พันล้านถึง 15 พันล้านดอลลาร์และหยุดการถอนตัวทั้งหมดในตอนท้ายของเดือนกันยายนหลังจากนั้นเฟดน่าจะมีขนาดพอร์ทการลงทุน“ คงที่ในระยะเวลาหนึ่ง” ซึ่งจะช่วยให้ยอดคงเหลือสำรองลดลงเรื่อยๆ
บทความโดย Jeanna Smialek, และ Matthew Boesier
ที่มา : Bloomberg รวมรวบโดย Wealthy Thai