หนึ่งในปัจจัยที่โลกต้องจับตามองใกล้ชิดชนิดหยุดโลก คือ “สงครามการค้า” ระหว่างสหรัฐกับจีนนั่นเอง ช่วงที่ผ่านมาจาก ‘ปัจจัยเดิม’ ก็เป็นทั้งปัจจัย ‘ลบ’ และ ‘บวก’ กับตลาดการลงทุนโลกไปพร้อมๆ กัน

วันนี้ ทีมงาน “Wealthythai.com” จะพามาส่องกลุ่ม “กองหุ้นจีน” กันก่อนเลย เพราะถือเป็นหนึ่งในพิมพ์นิยมที่นักลงทุนไทยสนใจไปกันลงทุนกันมากประเทศหนึ่งเลยทีเดียว ปัจจุบันมี ‘กองหุ้นจีน’ 31 กอง เม็ดเงินรวมกันประมาณ 41,075.40 ล้านบาท หรือเฉลี่ยต่อกอง 1,325.01 ล้านบาท แต่ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน มี ‘กองหุ้นจีน’ เพียง 3 กอง เท่านั้น

ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) ณ 28 ก.พ. 19 นั้น กลุ่ม ‘กองหุ้นจีน’ ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 14.28% ใน 31 กอง มี 15 กอง คิดเป็นสัดส่วน 48.39% ของกองหุ้นจีนทั้งหมด ที่มีผลงานดีกว่าค่าเฉลี่ย อีก 16 กอง คิดเป็น 51.61% ของทั้งหมด แพ้ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม

“โดยกองที่มีผลงานดีสุดให้ผลตอบแทน 25.06% ในขณะที่กองที่มีผลงานแย่สุดให้ผลตอบแทน 8.64% หรือต่างกันอยู่ 16.42% เลยทีเดียว หลายคนอาจจะสงสัยว่า...ทำไม ‘กองหุ้นจีน’ เหมือนกัน จึงมีผลตอบแทนต่างกันได้ถึงขนาดนี้?...” 

Top5 ''กองหุ้นจีน'' ณ 28 ก.พ. 19
กองทุน	รหัส	Morningstar Rating	ผลตอบแทน
			YTD(%)	1Y(%)	3Y(%ต่อปี)
กรุงศรีไซน่าเอแชร์อิควิตี้-A	KFACHIAN-A		25.06	n/a	n/a
ไทยพาณิชย์ หุ้นจีนเอแชร์	SCBCHA		21.32	-11.07	4.46
เค ดัชนีหุ้นจีน	K-CHX		19.75	-8.25	9.76
เค ไซน่า คอลโทรล ไวลาติลาติลิตี้	K-CCTV		19.70	n/a	n/a
ซีไอเอ็มบี-พรินซเพิล ไซน่า อิควิตี้	CIMB-PRINCIPAL CHEQ		19.20	n/a	n/a

ที่มา www.morningstarthailand.com ,รวบรวมโดย "Wealthythai.com"

ย้อนกลับมามองดูพัฒนาการของ ‘กองหุ้นจีน’ กันนั้น เริ่มมาจากการเข้าไปลงทุนในหุ้นจีนง่ายสุดผ่าน ‘ตลาด H-Share’ ก่อน แล้วค่อยขยับมาเป็น ‘Greater China (จีน ,ฮ่องกง ,มาเก๊า และ ไต้หวัน)’

โดยไปจดทะเบียนในตลาดหุ้น ‘นิวยอร์ก’ และ ‘แนสแดก’ รวมถึงตลาดหุ้น ‘สิงคโปร์’ ก่อนจะเข้าสู่ยุคหลังที่ตลาดหุ้นจีนเปิดต้อนรับนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น ก็มาถึงยุคของ ‘ตลาด A-Share’ และล่าสุดกับ ‘All China’

“เพราะฉะนั้น...ใน ‘1 จีน’ เองก็ยังมีความ ‘แตกต่าง’ กันค่อนข้างมาก ถ้าเลือกไปผิดที่ผิดทาง ผลตอบแทนก็อาจจะแตกต่างกันได้อย่างที่เห็นนั่นเอง”

“หุ้นจีน” มีหลายประเภทด้วยกัน ได้แก่

1. ‘A-Share’ เป็นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ‘เซี่ยงไฮ้’ และ ‘เสิ่นเจิ่น’
2. ‘B-Share’ เป็นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ‘เซี่ยงไฮ้’ และ ‘เสิ่นเจิ่น’ สกุลต่างประเทศ เช่น ดอลลาร์สหรัฐ (USD) หรือฮ่องกงดอลลาร์ (HKD)
3. ‘H-Share’ เป็นบริษัทจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ‘ฮ่องกง’ ในสกุลฮ่องกงดอลลาร์ (HKD)
4. ‘Red-Chips’ เป็นบริษัทจีนที่ตั้งอยู่นอกประเทศจีน จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ‘ฮ่องกง’ สกุลเงินฮ่องกงดอลลาร์ (HKD) โดยธุรกิจส่วนใหญ่รัฐเป็นเจ้าของ
5. ‘P-Chips’ เป็นบริษัทจีนที่ตั้งอยู่ใน ‘เกาะเคย์แมน’ , ‘Bermuda and the British Virgin Islands’ ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ‘ฮ่องกง’ ในสกุลเงินฮ่องกงดอลลาร์ (HKD)
6. ‘US ADRs’ เป็นหุ้นจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ‘แนสแดก’ สหรัฐ

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน ความสามารถในการแข่งขันของบริษัทจีนในระยะยาวแล้ว เชื่อว่ากลุ่ม “กองหุ้นจีน” น่าจะตอบโจทย์คุณได้ไม่มากก็น้อย แต่สิ่งสำคัญ...ต้องไม่ลืมดูว่า “หุ้นจีน” ที่ไหน...ที่คุณกำลังจะเข้าไปลงทุนประกอบด้วยนะ เพราะแม้จะเป็น “หุ้นจีน” เหมือนกัน แต่ผลลัพธ์อาจจะต่างกันไปก็ได้เช่นกัน