Hightlight
- บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ได้เริ่มการจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 ในสถานีบริการน้ำมัน สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่และรถขนส่งพีที
- คาดว่ายอดขายของ B20 ในอนาคต จะมีสัดส่วน 13% ของยอดขายกลุ่มดีเซล
ของสาขาเขาย้อย 2 หรือประมาณ 200,000 ลิตรต่อเดือน
- ปี 2562 บริษัทได้ตั้งเป้าปริมาณการจำหน่ายน้ำมันและรายได้ จะเติบโต 16-20%
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า บริษัทได้เริ่มการจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 ในสถานีบริการน้ำมัน สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ และรถขนส่งพีที ณ สถานีบริการน้ำมัน พีที สาขาเขาย้อย 2จังหวัดเพชรบุรี
ทั้งนี้บริษัทยังได้คาดว่ายอดขายของ B20 ในอนาคต จะมีสัดส่วน 13% ของยอดขายกลุ่มดีเซล ของสาขาเขาย้อย 2 หรือประมาณ 200,000 ลิตรต่อเดือน อย่างไรก็ตามในช่วงเริ่มต้นการเติบโตของยอดขาย B20 จะมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยกับยอดขายเดิมของ B7 และไม่ได้เป็นการโยกมาเติมน้ำมันอีกชนิดของลูกค้า ทำให้ภาพรวมยอดขายกลุ่มดีเซลจะมีการเติมโตเพิ่มสูงขึ้นเป็น 15%
“สำหรับการเปิดจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 ในสถานีบริการน้ำมัน สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ และรถขนส่งพีที ที่สถานีบริการน้ำมัน พีที สาขาเขาย้อย 2 จังหวัดเพชรบุรี เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐยังมีการสนับสนุนการใช้ B20 เพื่อใช้เป็นกลไกในการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลที่มีส่วนผสมของไบโอดีเซลให้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าบริการขนส่ง และค่าโดยสารสาธารณะ รวมทั้ง เป็นการช่วยเหลือและสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันอีกทางหนึ่ง โดยการกำหนดอัตราภาษีน้ำมันดีเซล B20 คำนวณจากเฉพาะเนื้อน้ำมันดีเซล ไม่ได้คิดภาษีในส่วนของน้ำมันปาล์ม” นายพิทักษ์กล่าว
เป้าหมายปี 2562
นอกจากนี้ในปี 2562 บริษัทได้ตั้งเป้าปริมาณการจำหน่ายน้ำมันและรายได้ จะเติบโต 16-20% และคาดว่ากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อม (EBITDA) จะเติบโต 40-50% จากปี 2561เนื่องจากบริษัทมีกิจกรรมเพิ่มยอดขายของสถานีบริการเดิม
อีกทั้งวางแผนขยายสถานีบริการใหม่ให้เพิ่มขึ้นเป็น 2,000 สาขา จากปี 2561 ที่มีสถานีบริการอยู่ที่ 1,883 สาขา บริษัทจะเน้นการขยายสาขาในทำเลที่สามารถรองรับการให้บริการ non-oil อื่นๆ แก่ลูกค้าอีกด้วย โดยบริษัทยังได้ตั้งงบลงทุนรวมจำนวน 3,500 ล้านบาท แบ่งเป็น ลงทุนในธุรกิจน้ำมันและธุรกิจที่เกี่ยวข้องอยู่ที่ 2,500 ล้านบาท, ธุรกิจ non-oil อยู่ที่ 500 ล้านบาท และธุรกิจใหม่อยู่ที่ 500 ล้านบาท