สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดประชุมสามัญประจำปี 2562 พร้อมเปิดเวทีเสวนาเรื่อง “Shaping Thai Industry” และเชิญ 5 พรรคการเมืองร่วมเสวนา “ตอบโจทย์อุตสาหกรรมไทย”
สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า ได้นำเสนอ “ปัจจัยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยให้เข้มแข็ง” มี 5 ยุทธศาสตร์สำคัญ คือ
- การสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายภาคอุตสาหกรรม โดยขับเคลื่อนร่วมกับภาครัฐ เสนอให้มีการจัดประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐบาลและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) จังหวัด และอยากให้ประชุม กรอ.อย่างน้อย 2 เดือนครั้ง
- การเพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรมไทย ผ่านทั้งจัดตั้งกองทุน อินโนเวชั่น ฟันด์
- การยกระดับเอสเอ็มอี สนับสนุนสินค้า เมด อิน ไทยแลนด์ และตั้งกองทุนผู้เชี่ยวชาญช่วยเอสเอ็มอี
- ส่งเสริมธรรมาภิบาล ความรับผิดชอบต่อสังคม โดยสนับสนุนการทำบัญชีเดียวของภาคธุรกิจ และควรยกเลิกกฎหมายที่ไม่จำเป็น รวมถึงการปฏิรูปบุคลากรภาครัฐ
- การยกระดับทักษะความรู้และคุณภาพชีวิต ทรัพยากรมนุษย์ ผ่านทั้ง Life Long Learning และการทำ Pay by Skill ยกระดับมาตรฐานคุณวุฒิวิชาชีพ
ทั้งนี้ ส.อ.ท.ต้องการเห็นค่าแรงเป็นระบบลอยตัวสะท้อนกลไกความต้องการแรงงานในตลาดและทักษะฝีมือ ซึ่งในแต่ละอุตสาหกรรมและจังหวัดย่อมต่างกันออกไป
ด้าน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประกาศชัดเจนจะต่อสู้กับคอร์รัปชั่น ขณะที่นโยบายเศรษฐกิจของพรรคตอบโจทย์ 5 ด้าน คือ เทคโนโลยี สงครามทางการค้า ดักรายได้ปานกลาง การเข้าสู่สังคมสูงวัย และเศรษฐกิจเหลื่อมล้ำ
สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ต้องการปรับระบบราชการ ปราบคอร์รัปชั่น เร่งเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ลดความเสี่ยงจากสงครามการค้าในภาคอุตสาหกรรมไทย
อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ภาครัฐต้องทำหน้าที่สนับสนุนในสิ่งที่ต้องสนับสนุน โดยให้ลดอำนาจรัฐ ยกเลิกกฎหมายที่ไม่จำเป็นออกไป ลดขั้นตอนขอใบอนุญาตต่างๆ
พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ตัวแทนจากพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า พรรคจะจัดตั้งคณะทำงานทำการศึกษาวิจัยค้นคว้าเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับไฮเปอร์ลูปให้ไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออกได้ภายใน 10 ปีข้างหน้า