“บลจ.ไทยพาณิชย์”...มอง ‘REITs-อสังหาฯ’ โลกยังน่าสนใจลงทุน

>>

“บลจ.ไทยพาณิชย์”...มอง ‘REITs-อสังหาฯทั่วโลกยังน่าสนใจลงทุน เหตุผลตอบแทนดีสม่ำเสมอ ช่วยรักษาอำนาจซื้อของเงิน แนะ กองSCBGPROP’ ทางเลือกกระจายการลงทุน


นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส รองกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.ไทยพาณิชย์ จำกัด
เปิดเผยว่า บริษัทยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนใน อสังหาริมทรัพย์ และ ‘REITs’ เพราะการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้ยังสามารถให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจอย่างสม่ำเสมอ จากข้อมูลในอดีตค่าเช่าสินทรัพย์สามารถให้ผลตอบแทนที่เหนือกว่าอัตราเงินเฟ้อ ดังนั้น อสังหาริมทรัพย์จึงเหมาะกับการลงทุนเพื่อรักษาอำนาจการชื้อ (Purchasing power) ในระยะยาว ประกอบกับอัตราการจ่ายเงินปันผลอยู่ในระดับน่าสนใจเนื่องมาจากการเติบโตของอัตราค่าเช่า การบริหารจัดการอสังหาที่มีประสิทธิภาพ และขนาดของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตขึ้น


“อีกทั้งยังเป็นการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกอื่น นอกจากการลงทุนเพียงในตราสารทุนและตราสารหนี้ รวมถึงกระแสเงินสดรับจากการลงทุนสามารถประเมินได้และสม่ำเสมอ”

 
( นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส )


นางนันท์มนัส ยังกล่าวอีกว่า ธุรกิจที่น่าสนใจใน สหรัฐ ได้แก่ กลุ่มที่พักอาศัย เช่น อพาร์ทเม้น และบ้านเดี่ยว โดยมีปัจจัยหนุนจากอัตราการเติบโตของการจ้างงานที่แข็งแรง ขณะที่อุปทานจากผู้ผลิตบ้านที่เริ่มชะลอตัว เช่นเดียวกับกลุ่มโรงงานที่เริ่มมีการขยายตัวจากเขตที่มีความกระจุกตัวในบางพื้นที่ ขณะที่ ยุโรปกลุ่มตลาดที่โดดเด่น คือ กลุ่มธุรกิจสำนักงานและออฟฟิศ ในเมืองหลักๆ โดยเฉพาะในเยอรมัน และฝรั่งเศส โดยมองว่ามีรายได้ค่าเช่ามีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากอุปสงค์ของผู้ต้องการใช้งานยังมีให้เห็นอย่างชัดเจนและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


ขณะที่ กลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังคงเฝ้าระวังคือ ร้านค้าปลีก ในอังกฤษ มองว่าที่ผ่านมาตัวเลขร้านค้าปลีกที่ไม่ประสบความสำเร็จในการปล่อยเช่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างเป็นนัยยะสำคัญ


“ส่วนการลงทุนใน เอเชีย มีมุมมองเชิงบวกต่อ REITs ในญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่ผ่อนปรนและเป็นมิตรกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น รวมถึงรายได้ค่าเช่ายังอยู่ในระดับที่สม่ำเสมอและมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ ขณะกลุ่มธุรกิจที่เป็น Developer ของฮ่องกงยังคงต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากความกังวลของการเติบโตของเศรษฐกิจของจีน และตลาดธุรกิจที่อยู่อาศัยที่เริ่มชะลอตัวลง”


ทั้งนี้บริษัทมีกองทุนที่แนะนำคือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอล พร็อพเพอร์ตี้ (SCBGPROP)’ ซึ่งมีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของ กอง BGF WORLD REAL ESTATE SECURITIES FUND’ ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ  (USD) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80%  ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งมีนโยบายเน้นบริหารเพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนใน REIT ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือหลักทรัพย์ของบริษัทที่ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก ภายใต้การบริหารจัดการของ BlackRock Investment Management (UK) Limited  

“สำหรับกองทุนหลักเน้นลงทุนใน REITs และหุ้นของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งส่งผลให้กองทุนมีความผันผวนต่ำกว่ากองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพียงอย่างเดียว โดยกระจายการลงทุนไปยังหลากหลายกลุ่มธุรกิจ เช่น ที่พักอาศัย สำนักงาน โรงแรม และอาคารพาณิชย์ เป็นต้น อีกทั้งยังมีการกระจายลงทุนในภูมิภาคต่าง ๆ มากกว่า 10 ประเทศทั่วโลก ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการมากกว่า 224 ล้านดอลลาร์สหรัฐ”

‘กอง SCBGPROP’ จ่ายปันผลไปแล้ว 4 ครั้ง รวม 0.4896 บาทต่อหน่วย และล่าสุดในวันที่ 24 เม.ย. 19 ที่ผ่านมาได้มีการจ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 18 - 31 มี.ค. 19 ในอัตราจ่ายปันผล 0.2023 บาทต่อหน่วย ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 5 ทั้งนี้กองดังกล่าวยังเป็นกองทุนที่สามารถสร้างผลการดำเนินงานที่เป็นบวก โดยมีผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 19 เม.ย. 19

  • ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (YTD) อยู่ที่ 12.20% 
  • ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 6.24% 
  • ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 7.58% 
  • ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 7.02%