แค่ “เงินฝากประจำ”...ยังขยันไม่พอ

>>

อุตส่าห์เหนื่อยทำงาน หาเงินมาแล้ว วันนี้คุณให้ เงินทำงาน สร้างผลตอบแทนคุ้มค่ากันหรือยัง?


ด้วยดอกเบี้ย ออมทรัพย์ 0.5% ต่อปี เงิน 10,000 บาท คุณจะทำงานให้โตเป็น 2 เท่า หรือ 20,000 บาท ในระยะเวลา 144 ปี (ตายแล้วยังไม่ได้เห็นเลย)


หลายคนขยับมาสู่ เงินฝากประจำ ดอกเบี้ยดีขึ้นมาเฉลี่ย 1% ต่อปี เงินจะโตเป็น 2 เท่า ในเวลา 72 ปี (เริ่มมีลุ้นเห็นได้ช่วงบั้นปลายชีวิต) เงินทำงานหนักขึ้นมาอีกนิด


แต่ก็ยังขยันไม่พอเมื่อเทียบกับ กองทุนตราสารหนี้ ด้วยผลตอบแทนเฉลี่ย 1.5 – 2.0% ต่อปี เงินคุณจะโตเป็น 2 เท่า ในเวลาลดลงเหลือ 36-48 ปีเท่านั้น (น่าจะทันได้เห็นในช่วงชีวิตนี้สำหรับคนไม่ชอบเสี่ยง)


แล้วคุณอยากจะเห็นเงินโตเป็น
2 เท่า ในอีกกี่ปีข้างหน้าล่ะ?

 

“เงินฝากประจำ”...กว่า 80% ฝากไม่เกิน 1 ปี


มีการศึกษาพบว่าเงินออมของคนไทยส่วนใหญ่ กองอยู่ใน เงินฝาก (ณ ก.พ.19) มีเงินฝากในระบบ 13.78 ล้านล้านบาท เป็น ออมทรัพย์ 7.97 ล้านล้านบาท คิดเป็น 57.84% ของเงินฝากทั้งหมด


เป็น เงินฝากประจำ 5.14 ล้านล้านบาท คิดเป็น 37.30% ของเงินฝากทั้งหมด ที่เหลือเป็น เงินฝากจ่ายคืนเมื่อทวงถาม


เจาะมาดูโครงสร้างของ “เงินฝากประจำ” กันสักหน่อย จะพบว่าหากนับตามบัญชีส่วนใหญ่จะฝาก น้อยกว่า 3 เดือน ถึง 45.74% (ช่วงดอกเบี้ย 0.25-1.5% ต่อปี) กับช่วง ‘6 เดือน -1 ปี’ 29.13% (ช่วงดอกเบี้ย 0.25-1.8% ต่อปี) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเม็ดเงินฝากประจำ 23.86% และ 41.67% ตามลำดับ


“ทั้งนี้จะพบว่าบัญชีเงินฝากประจำ 86.14% จากทั้งหมด จะฝากระยะ ไม่เกิน 1 ปี ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเม็ดเงินรวมกันประมาณ 79.06% ของเงินฝากประจำทั้งหมดเลยทีเดียว ดอกเบี้ยก็อยู่ในช่วง 0.25 -1.8% ต่อปี แม้จะส่งเงินมาทำงานหนักขึ้นในกลุ่ม ‘เงินฝากประจำ’ แต่ผู้ฝากเงินส่วนใหญ่ก็ยังคงไม่นิยมอะไรที่ระยะยาว (เกินกว่า 1 ปี) อยู่นั่นเอง สะท้อนผ่านข้อมูลเงินฝากประจำได้เป็นอย่างดี”

 

แปลก...แต่จริง พันธบัตรรัฐบาล ผลตอบแทนดีกว่าเงินฝาก


เชื่อว่า...ผู้ฝากเงินส่วนใหญ่ก็คงมั่นใจว่า แบงก์ ที่เราไปฝากเงินไว้นั้น มี่ความแข็งแกร่ง มั่นคง ปลอดภัย ไม่มีวันเจ๊งแน่นอน และจะสามารถจ่าย ดอกเบี้ย และ เงินต้น คืนให้ได้ตามกำหนดทุกบาท ทุกสตางค์ เรียกว่า...ฝากแล้ว หลับได้ ไม่สะดุ้งตื่นตอนกลางคืน


ส่วน ดอกเบี้ย ก็มากน้อยแตกต่างกันไปตามแต่ละ แบงก์ และตาม ขนาด ของเงินฝากด้วย ถือเป็นเรื่องปกติ


มีคำถามชวนให้คิด... “คุณคิดว่า...ระหว่าง ‘แบงก์’ กับ ‘รัฐบาล’ ใครมีฐานะความมั่นคงกว่ากัน เอาในด้านเครดิตนี่แหละ ความน่าเชื่อถือใครน่าจะดีกว่ากัน?”


ไม่รู้ว่า...คำตอบคุณคืออะไร? แต่ถ้าในประเทศไทย... รัฐบาลไทย มีเครดิตดีที่สุดแล้ว


ลองมาดู...ผลตอบแทนจากการลงทุนใน พันธบัตรรัฐบาล และ เงินฝากประจำ ที่มีระยะเวลาการลงทุนเท่ากันดู จะพบว่า... ‘พันธบัตรรัฐบาล’  ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ‘เงินฝากประจำ’ ในทุกช่วงระยะเวลาการลงทุนที่เท่ากันอยู่ตั้งแต่ 0.22-0.83% (ข้อมูล ณ วันที่ 2 พ.ค. 19) แตกต่างกันไปตามระยะเวลาการลงทุน


“ความเสี่ยงด้านเครดิตขององค์กรผู้ออกต่ำกว่า...ผลตอบแทนดีกว่า ดูแปลกๆ มั้ย แต่นี่เป็นเรื่องแปลก...แต่จริงที่เกิดขึ้นในไทย จึงไม่น่าแปลกใจว่า กลุ่ม กองทุนตราสารหนี้ จะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝากในภาพรวม”


โดยผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี (ณ วันที่ 31 มี.ค. 19) ของกองตราสารหนี้แต่ละกลุ่ม เป็นดังนี้

  • กอง Term Fund-ในประเทศ เฉลี่ยอยู่ที่ 2.05% ต่อปี
  • กองตราสารหนี้ระยะสั้นภาครัฐ เฉลี่ย 0.72% ต่อปี
  • กองตราสารหนี้ระยะสั้นทั่วไปเฉลี่ย 1.23% ต่อปี


ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่มี ‘ความเสี่ยง’ อยู่ในระดับที่แฟนพันธุ์แท้เงินฝากธนาคารยอมรับได้อย่างแน่นอน


อย่าปล่อยให้เงินที่คุณหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงหลับไหล ทำงานสบายๆ ขยับปรับ ‘พอร์ตเงินฝาก’ ของคุณสักนิดให้ ‘เงินได้ทำงาน’ มากขึ้น ลองผสมทางเลือกการลงทุนที่ ‘เสี่ยงต่ำ’ ในกลุ่ม ‘กองทุนตราสารหนี้’ เข้าไปนอกเหนือจาก ‘เงินฝากประจำ’ แล้ว ก็น่าจะช่วยให้เงินของคุณเติบโตงอกงามได้ดีขึ้นไม่มากก็น้อย