กลุ่ม “กองทุนรวมธรรมาภิบาลไทย (CG Fund)” ในไทยมีการเติบโตขึ้นตามลำดับ ณ สิ้นไตรมาสที่1/19 มีกองทุนกลุ่มนี้อยู่ทั้งหมด 17 กอง มีสินทรัพย์สุทธิรวมกัน 15.7 พันล้านบาท ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยในช่วง 3 เดือนแรกอยู่ที่ 5.4% ซึ่งการเติบโตของกลุ่ม ‘กอง CG Fund’ หรือ ‘กอง ESG Fund’ เป็นสัญญาณที่ดีของตลาดว่ามีการให้ความสำคัญที่คำนึงถึงเรื่องของสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลซึ่งเป็นแนวโน้มการลงทุนหลักของโลกมากขึ้น

            “บจ. มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย)” ระบุว่า บริษัทไม่เพียงจัดทำเรทติ้งสำหรับกองทุนรวมปกติเท่านั้น ยังมีการจัดทำเรทติ้งสำหรับเรื่องของ ESG ด้วยเช่นกัน โดยใช้สัญลักษณ์เป็นรูป ‘ลูกโลก (Globe)’ ด้วยวิธีการของ Morningstar ซึ่งจะจัดแบ่งออกเป็น 5 Globe ตั้งแต่ 1 Globe ไปถึง 5 Globes เช่นเดียวกับการให้ดาวของกองทุน

            “จากใน 17 กองในกลุ่ม ESG Fund นั้น อยู่ในกลุ่ม 5 Globes มากถึง 10 กอง และ 2 Globes อีก 3 กอง ซึ่ง ‘กอง ESG Fund’ นั้นจะมีการทำเรทติ้ง ESG ด้วยกัน 3 แบบ คือ ทำเรทติ้งภายในใช้เอง อิงกับดัชนี SETTHSI และอิงกับดัชนี ESG ของสถาบันไทยพัฒน์ นั่นจึงทำให้เรทติ้งของแต่ละกองอาจจะแตกต่างกันออกไป แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี”

นอกจากการทำเรทติ้งกองทุนแล้ว Morningstar เองก็มีการจัดทำ “ดัชนี ESG” อยู่แล้วในระดับโลกและที่มีการนำหุ้นไทยเข้าไปคำนวณในดัชนีนั้นมี 4 ดัชนีด้วยกัน ปัจจุบันมีหุ้นไทยที่อยู่ในดัชนี ESG ของ Morningstar ทั้งหมด 29 หลักทรัพย์ ซึ่งหากบลจ.ไหนสนใจจะจัดตั้งกองทุนแล้วนำไปใช้เป็น Benchmark ตรงนี้ก็จะมีค่าใช้จ่ายตามปกติ หรือในอนาคตหากมีความต้องการใช้ดัชนี ESG ในไทยโดยเฉพาะ ทาง Morningstar เองก็มีความพร้อมที่จะทำขึ้นมาเช่นกัน นี่เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่จะรุกเข้ามาในไทยเพิ่มเติมของเรา

            การขาดแคลนดัชนีที่จะเอาไว้ใช้อ้างอิงเป็น Benchmark ให้กับกองทุนอย่างเหมาะสม หรือการที่มีดัชนีที่เหมาะสม แต่บลจ.ไม่เลือกใช้เพราะมีค่าใช้จ่ายนั้น ตรงนี้ก็ถือเป็น “ปัญหา” และเป็น “โอกาส” สำหรับ Morningstar ในการเข้ามาเติมเต็มภาพในส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี