บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล แนะนำการลงทุนในทองคำ ให้เน้นทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว การเข้าซื้อจะมีแนวรับบริเวณ 1,268-1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาขยับขึ้นควรแบ่งขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านโซน 1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าผ่านได้สามารถถือต่อได้
วายแอลจี ระบุว่าราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับแรงหนุนจากความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ รอบใหม่ หลังสหรัฐฯ เตรียมจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากระดับ 10% ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ (10 พ.ค.) เวลา 12.01 น.ตามเวลาสหรัฐฯ ซึ่งทำให้การเจรจาการค้ารอบใหม่ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่มีกำหนดจะจัดขึ้นในสัปดาห์นี้ตกอยู่ในความไม่แน่นอนอีกครั้ง
ทั้งนี้ แม้ทางการจีนเตรียมจะส่งคณะผู้แทนไปยังสหรัฐฯ เพื่อเจรจาการค้า แต่ยังไม่มีการยืนยันว่านายหลิว เหอ รองนายกจีนจะเดินทางไปกับคณะผู้แทนด้วยหรือไม่ สถานการณ์ดังกล่าวกดดันตลาดหุ้นทั่วโลก พร้อมกับกระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยในวงกว้างทำให้ทองคำและเงินเยนได้รับอานิสงค์เชิงบวก ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันดอลลาร์ให้อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนจนสร้างแรงหนุนให้กับราคาทองคำเพิ่มเติม
อย่างไรก็ดีราคาทองคำลดช่วงบวกลงหลังนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวานนี้ (6 พ.ค.)ว่า สหรัฐฯ จะพิจารณาทบทวนมาตรการภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน หากการเจรจาดำเนินไปด้วยดีซึ่งช่วยคลายความวิตกลงบางส่วน
ด้านกองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุนขนาดใหญ่ที่ถือครองทองคำมากที่สุดในโลก ได้ลดการถือครองทองคำลงวานนี้ 1.18 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการเจรจาการค้าจีนและสหรัฐฯ รวมถึงถ้อยแถลงของนายแรนดัล ควอร์เลส (ผู้ว่าการเฟด)
วายแอลจี มองว่าระหว่างวันหากราคาทองคำไม่หลุด 1,268-1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะมีโอกาสดีดตัวขึ้นต่อ โดยหากยืนเหนือระดับสูงสุดของวันทำการก่อนหน้าบริเวณ 1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ การขยับขึ้นจะมีแนวต้านที่ 1,297 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่ผ่านแนวต้านแรก กรอบด้านล่างจะอยู่ที่ 1,268-1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์
"กลยุทธ์การลงทุน ราคาทองคำมีจุดเปิดสถานะขายในบริเวณ 1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากยืน 1,297 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้) แต่หากราคาอ่อนตัวลงไปก่อนให้พิจารณาบริเวณ 1,268-1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นจุดซื้อ แต่หากผ่านโซนแนวต้านดังกล่าวแนะนำให้ชะลอการขายออกไปเพื่อรอดูสถานการณ์ "วายแอลจี ระบุ
