นายภัทรกฤช เตชะศิกานต์ รองผู้ว่าการการเงินและบัญชี การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความตกลงว่าด้วยการออกจำหน่ายตราสารหนี้ของ กฟผ. โดยวิธีการประมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) และบันทึกความตกลงว่าด้วยการเป็นนายทะเบียนและตัวแทนการจ่ายเงินตราสารหนี้ ระหว่าง กระทรวงการคลัง และ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า กฟผ.เตรียมเปิดประมูลพันธบัตรวงเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท ผ่านระบบ e-Bidding เพื่อนำเงินที่ได้ไปสมทบโครงการลงทุนโรงไฟฟ้าและการพัฒนาระบบส่งไฟฟ้า
ทางกฟผ. แบ่งการออกพันธบัตรเป็นจำนวน 3 ครั้ง ในวงเงินครั้งละ 4,000 ล้านบาท โดยจะออกพันธบัตรครั้งแรก ซึ่งเป็นพันธบัตรที่มีอายุ 10 ปี ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2562
ทั้งนี้ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี 2018) มีวงเงินลงทุนในช่วง 10 ปี ทั้งการก่อสร้างโรงไฟฟ้าและการพัฒนาระบบส่งไฟฟ้า รวมประมาณ 6 แสนล้านบาท โดยเบื้องต้นกำหนดแผนการจัดหาเงินกู้ในประเทศเป็นลำดับแรก โดยเลือกวิธีการประมูลพันธบัตรผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะนำไปลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าบางปะกง (ทดแทนเครื่องที่ 1 – 2), โครงการทดแทนโรงไฟฟ้าพระนครใต้ ระยะที่1, โครงการขยายระบบส่งไฟฟ้า ระยะที่ 12, โครงการปรับปรุงและขยายระบบส่งไฟฟ้าที่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน ระยะที่ 2, โครงการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าบริเวณภาคตะวันตกและภาคใต้เพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า และโครงการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร