Hightlight

• บมจ.ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก ผลงานไตรมาส 1/ 62 มีรายได้รวม 137.95 ล้านบาท ลดลง 0.22 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.16 % เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 10.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.70 % เมื่อเทียบจากปีก่อน

• กำไรเติบโตดีจากการปรับกลยุทธ์การขายและการบริหารจัดการ และความต้องการใช้พลาสติกที่ยังมีต่อเนื่อง

• มีแผนทำการตลาดบรรจุภัณฑ์ใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คาดเปิดขายได้ไตรมาส 3/62 เน้นเจาะกลุ่มลูกค้า ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว และโมเดอร์นเทรด

• ปี 2562 บริษัทฯตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ยอดขายเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 558.22 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ 23.83 ล้านบาท

นายธีระชัย ธีระรุจินนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) จำกัด (มหาชน) หรือ TPLAS ผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถุงบรรจุอาหาร และ ถุงหูหิ้ว ภายใต้ตราสัญญาลักษณ์ “ หมากรุก” และฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร ภายใต้ตราสัญญาลักษณ์ “ Vow Wrap ” กล่าวว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2562  สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม 137.95 ล้านบาท ลดลง 0.22 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.16 % เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 6.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.70 ล้านบาท หรือคิดเป็น 53.70% เมื่อเทียบจากปีก่อน


สำหรับอัตราการปรับตัวที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการปรับกลยุทธ์การขายเน้นเพิ่มมาร์จิ้น และปรับปรุงกลเม็ดวิธีการบริหารจัดการ รวมถึงความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ถุงบรรจุอาหารและถุงหูหิ้ว พร้อมทั้งฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหารยังคงมีความต้องการใช้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าหรือผู้ประกอบการที่มีความจำเป็นในการใช้ผลิตภัณฑ์บรรจุอาหาร นอกจากนี้ TPLAS มีการวางกลยุทธ์ในการเจาะตลาดทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ไปยังกลุ่มซาปั๊วรวมถึงกลุ่มลูกค้ารายใหม่ๆ เพิ่มขึ้น


ส่วนในไตรมาส 2/2562 บริษัทฯอยู่ระหว่างขะมักเขม้นในการทำการตลาดในส่วนของกลุ่มผลิตภัณฑ์ไลน์ใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเน้นกลุ่มหลัก คือ ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว เพื่อนำไปจำหน่ายต่อให้กับ กลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าปลีก ต่อไป ซึ่งคาดว่าจะสามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ประเภทบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้ภายในไตรมาส 3/2562 รวมถึงมีแผนที่จะเจาะตลาดไปยังกลุ่มโมเดอร์นเทรด กลุ่มอุตสาหกรรมโรงแรม  กลุ่มอุตสาหกรรม ประเภทอาหาร เพื่อเพิ่มวอลุ่มและขยายช่องทางการตลาดใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์และตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในยุคนี้มากขึ้น เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความต้องการใช้สูง ประกอบกับยังเป็นสินค้าที่สามารถนำมาทดแทนผลิตภัณฑ์เดิมๆที่มีอยู่ในท้องตลาดได้


กรรมการผู้จัดการ กล่าวเพิ่มอีกว่า ผลิตภัณฑ์ใหม่ยังรองรับความต้องการของตลาด และผู้บริโภคซึ่งเชื่อว่าบรรจุภัณฑ์ใหม่ชนิดนี้จะสามารถต่อยอดและเพิ่มยอดขายให้กับ TPLAS ได้ และยังเป็นการลดความเสี่ยงในกลุ่มผลิตภัณฑ์ตัวเดิม หลังจากที่มีการรณรงค์ลดใช้ถุงพลาสติก โดยหันมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จากแผนการดำเนินธุรกิจดังกล่าวส่งผลให้ในปี 2562 บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ยอดขายเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 558.22 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ 23.83 ล้านบาท   


นอกจากนี้ ความคืบหน้าการดำเนินการขยายพื้นที่อาคารสำนักงานบริษัทฯนั้น ล่าสุด การก่อสร้างดังกล่าวแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน รวมถึงจะสามารถควบคุมการทำงานให้มีศักยภาพ และมีระบบในการดำเนินงานและจัดเก็บเอกสารได้มากยิ่งขึ้น ส่วนอาคารโรงงานใหม่และการติดตั้งเครื่องจักรใหม่สำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์ถุงพลาสติกนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในช่วงต้นปี 2563 ซึ่งหากโรงงานดังกล่าวแล้วเสร็จจะส่งให้บริษัทฯ มีความสามารถรองรับกำลังการผลิตเพิ่มเป็นเท่าตัวหรือไม่น้อยกว่า 30% จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตรวมถุงพลาสติกประมาณ 10,200 ตันต่อปี และกำลังการผลิตฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหารประมาณ 1,440 ตันต่อปี รวมถึงยังสามารถผลิตไลน์บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้ด้วยเช่นเดียวกัน