“กองหุ้นสุขภาพ (Healthcare Fund)” หนึ่งในธีมใหญ่ของโลกที่มาพร้อมกับสังคมผู้สูงอายุที่แพร่กระจายไปทั่วโลกเรียบร้อยแล้ว กองทุนนี้มีเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมกองทุนไทยตั้งแต่ 12 ปีที่แล้ว แต่เพิ่งมีบลจ.นำเสนอกองทุนประเภทนี้กันอย่างมากมายก็ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาเท่านั้นเอง จากใน 10 ปีก่อนที่มีอยู่เพียง 2 กองทุน ปัจจุบันมีอยู่ 27 กอง มีสินทรัพย์สุทธิรวมกัน 32,265.43 ล้านบาท หรือเฉลี่ยต่อกอง 1,195.02 ล้านบาท สะท้อนถึงความนิยมของนักลงทุนไทยที่มีต่อธีมการลงทุนในสุขภาพได้เป็นอย่างดี
ปัจจุบัน “กองหุ้นสุขภาพ (Healthcare Fund)” สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ
- ลงทุนใน Conventional Healthcare ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจ Pharmaceutical ,Healthcare Products ,Biotechnology และ Healthcare Service เป็นหลัก
- ลงทุนใน Innovative Healthcare ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจ Biotechnology และ Digital Healthcare เป็นหลัก จริงๆ จะเรียกเป็นกลุ่มเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพก็คงไม่ผิดนัก
กองหุ้นสุขภาพทั้งหมดก่อนหน้านี้เป็นกองหุ้นสุขภาพแบบดั้งเดิมที่ลงทุนในกลุ่ม Conventional Healthcare ซึ่งตรงไปตรงมาเข้าใจง่ายเป็นรูปแบบทั่วไป ซึ่งช่วงที่ผ่านมานโยบายเกี่ยวกับหลักประกันสุขภาพของสหรัฐจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะเข้ามากระทบกองหุ้นกลุ่มนี้ในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็เป็นเพียงแค่ปัจจัยลบในระยะสั้นเพราะโดยพื้นฐานแล้วธุรกิจสุขภาพเองก็ยังเติบโตได้ต่อเนื่องแม้จะไม่หวือหวาเท่าไรก็ตาม
“ส่วนกลุ่มกองหุ้นสุขภาพในยุคหลังเพิ่งเกิดขึ้นไม่ถึง 1 ปีที่ผ่านมานั้น จะเป็นกลุ่ม Digital Healthcare แต่ก็ได้รับการตอบรับค่อนข้างดีจนมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นมากว่า 25% แล้วในปัจจุบัน กลุ่มนี้เป็นการแตกไลน์แยกมาแบบชัดเจนจากการถือกำเนิดขึ้นของกลุ่ม ‘กองหุ้นเทคโนโลยี’ ต่างๆ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานั่นเอง กลุ่มนี้จริงๆ ก็คือกลุ่มเทคโนโลยีการแพทย์จึงไม่ได้รับผลกระทบจากข่าวเรื่องหลักประกันสุขภาพของสหรัฐเท่าไรนัก ด้วยพื้นฐานจริงๆ ก็คือเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นมาแล้วรอการเติบโต ถ้ากลุ่มเดิมเป็นแนว ‘หุ้นคุณค่า (Value)’ กลุ่มนี้ก็เป็น ‘หุ้นเติบโตสูง (Growth)’ มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป”
ช่วง 4 เดือนแรก (ณ วันที่ 30 เม.ย. 19) จาก 22 ‘กองหุ้นสุขภาพ’ ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 7.23% โดยกองที่มีผลงานดีสุดให้ผลตอบแทน 10.61% ในขณะที่กองที่แย่สุดให้ผลตอบแทน 3.46% หรือต่างกันอยู่ 7.15%
“ในจำนวนนี้มี 12 กอง คิดเป็น 54.55% ของทั้งหมด ที่ชนะค่าเฉลี่ยของกลุ่ม ในขณะที่อีก 10 กอง คิดเป็น 45.45% ของทั้งหมด แพ้ค่าเฉลี่ยของกลุ่ม”
เช่นเดียวกับการลงทุนในหุ้นโดยปกติทั่วไป คงต้องมองกันที่การลงทุน ‘ระยะยาว’ เป็นสำคัญ ความผันผวนในระยะสั้นถือเป็นเรื่องปกติ กลุ่ม ‘กองหุ้นสุขภาพ’ มีผลตอบแทนย้อนหลัง (ณ วันที่ 30 เม.ย. 19) ย้อนหลัง 1 ปี เฉลี่ยอยู่ที่ 4.71% โดย Top 5 ได้แก่
- ‘กองทุนเปิดเค โกลบอล เฮลท์เเคร์ หุ้นทุนUnhedged (K-GHEALTH(UH))’ >>> 2 ดาว >>> 14%
- ‘กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เฮลธ์แคร์ ฟันด์ ชนิดสะสมมูลค่า (KT-HEALTHCARE-A)’ >>> 5 ดาว >>> 6.90%
- ‘กองทุนเปิดเค โกลบอล เฮลท์แคร์ หุ้นทุน (K-GHEALTH)’ >>> 4 ดาว >>> 6.78%
- ‘กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เฮลธ์แคร์ ฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ(KT-HEALTHC RMF)’ >>> 4 ดาว >>> 6.56%
- ‘กองทุนเปิดเค โกลบอล เฮลท์แคร์ หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (KGHRMF)’ >>> 4 ดาว >>> 6.23%
ส่วนย้อนหลัง 3 ปี ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 4.58% ต่อปี Top 5 ได้แก่
- ‘กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เฮลธ์แคร์ ฟันด์ ชนิดสะสมมูลค่า (KT-HEALTHCARE-A)’ >>> 5 ดาว >>> 7.25%
- ‘กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลบอลเฮลธ์แคร์ (SCBGHC)’ >>> 5 ดาว >>> 7.06%
- ‘กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เฮลธ์แคร์ ฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ(KT-HEALTHC RMF)’ >>> 4 ดาว >>> 6.66%
- ‘กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลบอลเฮลธ์แคร์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRMGHC)’ >>> 4 ดาว >>> 6.66%
- ‘กองทุนเปิดธนชาตโกลบอลเฮลธ์แคร์. (T-Healthcare)’ >>> 4 ดาว >>> 6.27%
สำหรับใครที่มีมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจสุขภาพในระยะยาว กลุ่ม‘กองหุ้นสุขภาพ’ น่าจะตอบโจทย์ของคุณได้อยู่บ้างไม่มากก็น้อย